‘Heineken® Live Access’ ฉีกทุกกรอบแคมเปญทางดนตรีแบบไร้พรมแดนพาสัมผัสประสบการณ์
เชื่อมต่อวัฒนธรรมทางดนตรีในเทศกาลดนตรี EDM ระดับตำนานที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกกับมิสทรี่แลนด์
ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์
ผ่านไปกับปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่ทางดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกแห่งปีกับแคมเปญ “ไฮเนเก้น ไลฟ์ แอคเซส” (Heineken® Live Access) ที่ยกระดับประสบการณ์ Open Your World ความสนุกในทุกโมเมนต์ทางดนตรีที่แตกต่างกับเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลกของไฮเนเก้น ด้วยการเชื่อมเหล่านักปาร์ตี้ผู้ที่หลงใหลในดนตรีเข้ากับเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ระดับตำนาน และฉีกทุกความจำเจลดทุกข้อจำกัดทางดนตรีแบบไร้พรมแดน ล่าสุดเปิดประเดิมพา 3 ตัวแทนของกลุ่มคนที่หลงใหลในมิวสิคเฟสติวัล ได้แก่ ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์, ติช่า-กันติชา ชุมมะ และ Trasher Bangkok รวมถึงผู้โชคดี 3 ท่านบินลัดฟ้าสู่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมสัมผัสต้นกำเนิดแห่งเทศกาลดนตรีระดับโลกและระเบิดความมันส์กันใน มิสทรี่แลนด์ (Mysteryland) เทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ระดับตำนานสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ทุกคนตั้งตาคอยเมื่อวันที่ 26 – 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
ในฐานะแบรนด์ระดับโลกและเป็นผู้นำที่ผลักดันพร้อมสนับสนุนเทศกาลดนตรีจากทั่วทุกมุมโลก ไฮเนเก้นจึงมุ่งมั่นที่จะมอบสุดยอดประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างให้กับคนไทย จากแคมเปญ “ไฮเนเก้น ไลฟ์ แอคเซส” ( Heineken® Live Access) ซึ่งไฮเนเก้นตั้งใจให้แคมเปญนี้ยกระดับความบันเทิงของงานดนตรี สร้างความสนุกเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกเข้ากับเครือข่ายของไฮเนเก้น และให้ผู้คนทุกคนสามารถที่จะสัมผัสประสบการณ์ทางดนตรีได้อย่างถึงอารมณ์แบบไร้ข้อจำกัด เช่นคำว่า ‘Live Access’ โดยการเดินทางสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ ทุกคนได้เข้าถึงสุดยอดปรากฏการณ์ทางดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ EDM ระดับตำนานกันแบบเต็มๆ 2 วัน ในโซนวีไอพีสุดพรีเมียม ณ เทศกาลดนตรี มิสทรี่แลนด์ รวมถึงสาวกดนตรีทั้งหลายก็ได้เชื่อมต่อประสบการณ์ทางดนตรีอย่างไร้พรมแดนและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางดนตรีระดับโลกไปด้วยกัน ผ่านแนวดนตรีที่หลากหลาย โดยดีเจระดับโลกที่มาระเบิดความมันส์ อาทิ Deadmau5, Armin van Buuren, Alesso, Axwell ^ Ingrosso และอีกมากมายผนวกกับความพิเศษของเวทีหลักที่ออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์เข้ากับดีเจและลูกเล่นของความมันส์ในดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่มีสีสัน โดยมีเอฟเฟ็กต์ต่างๆ เช่น เปเปอร์ชูท รวมไปถึงไฟที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับสาวกดนตรีที่อยู่ในปาร์ตี้โมเม้นแบบเรียกได้ว่าสมการรอคอยมานับปี
ซึ่งทั้ง 3 ตัวแทนของกลุ่มคนที่หลงใหลในมิวสิค เฟสติวัล ยังได้ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ทางดนตรีระดับโลกผ่านมุมมองที่แตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ป๊อก-ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ ตัวแทนทางด้านสายดนตรี เล่าถึงความประทับใจในทริปนี้ว่า “ต้องขอขอบคุณแคมเปญ Heineken® Live Access ที่พาเราเดินทางมาเปิดโลกถึงที่ มิสทรี่แลนด์ เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาร่วมงานมิสทรี่แลนด์ และเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ มันส์มากๆ ได้มาเห็นอะไรใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวดนตรีที่หลากหลาย ซาวด์เพลงหรือทำนองใหม่ๆ ทำให้ผมได้แรงบันดาลใจในการทำเพลง ที่สำคัญสามารถเอากลับไปพัฒนาใช้กับผลงานของผมได้อีกด้วย สุดยอดครับทริปนี้”
ส่วนสาวสวยตัวแทนทางด้านสายแฟชั่น ติช่า-กันติชา ชุมมะ ที่เชื่อว่าคอสตูมเป็นสิ่งที่สร้างสีสันให้กับงานมิวสิคเฟสติวัลได้เป็นอย่างดีนั้น ก็ไม่พลาดจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม “การที่ติช่าได้มาร่วมทริปครั้งนี้และได้เข้าไปเปิดโลกในงานมิสทรี่แลนด์ มิวสิคเฟสติวัลระดับโลกครั้งแรก แน่นอนว่าติช่าต้องจัดเต็มกับแฟชั่นคูลๆ ในสไตล์ติช่า ไม่ให้เสียชื่อคนไทยและไฮเนเก้นแน่นอนค่ะ บอกได้เลยว่าแฟชั่นคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ ต้องขอบคุณไฮเนเก้นสำหรับแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ที่ให้ติช่าเป็นตัวแทนด้านสายแฟชั่นของประเทศไทยค่ะ ที่สำคัญติช่าได้ออกสเตปเต้นในแนวเพลงสนุกๆ ที่ติช่าชอบด้วยค่ะ”
ปิดท้ายด้วยกลุ่มปาร์ตี้เมคเกอร์อย่าง Trasher Bangkok ตัวแทนสายปาร์ตี้ที่ส่งมอบความสนุกทางดนตรีระดับโลกที่มิสทรี่แลนด์ให้กับทุกคน “การได้ไปร่วมงาน มิสทรี่แลนด์ นับเป็นประสบการณ์ EDM เฟสติวัลครั้งแรกของพวกเรา เป็นเทศกาลดนตรีของการปล่อยความคิดสร้างสรรค์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบการตกแต่งภายในงาน กิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่เพียงแต่ให้ผู้ร่วมงานไปชมคอนเสิร์ต รวมถึงเวทีหลากหลายรูปแบบและแนวดนตรี ซึ่งการได้ร่วมทริปครั้งนี้สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราอย่างมากในการที่จะกลับไปทำปาร์ตี้ให้สนุกและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้น ที่สำคัญทุกอย่างในทริปครั้งนี้มันพิเศษมากจริงๆ แบบถ้าไม่ได้มากับไฮเนเก้นคงจะไม่ได้อะไรพิเศษแบบนี้แน่นอน ขอขอบคุณไฮเนเก้นอีกครั้ง ที่พาเราไปเปิดโลกและเปิดประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ในโอกาสพิเศษนี้ เมื่อไฮเนเก้นพาลัดฟ้าสู่เมืองอัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดบ้านเกิดของไฮเนเก้น จึงไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปชมเบื้องหลัง ความสำเร็จตลอดระยะเวลา 144 ปี และเส้นทางประวัติศาสตร์ของไฮเนเก้น ที่ Heineken Experience เรียนรู้เรื่องราวทุกหน้าประวัติศาสตร์ของไฮเนเก้น ตั้งแต่วิวัฒนาการ กรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถันในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการวางถังหมักเบียร์ในแนวนอนซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไฮเนเก้น ที่ต้องหมักบ่มเบียร์เป็นระยะเวลาทั้งหมด 28 วัน เพราะไฮเนเก้นเชื่อว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้เบียร์คุณภาพรสชาติระดับพรีเมียม และกระบวนการบรรจุเบียร์ที่ทันสมัยแต่พิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขวดของไฮเนเก้นส่งถึงมือผู้บริโภคใน 192 ประเทศ ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลก
ถ้าคุณเป็นสาวกดนตรีที่ไม่อยากพลาดโอกาสพิเศษ และอยากร่วมเปิดประสบการณ์สุดพรีเมียมกับไฮเนเก้นที่หาจากที่ไหนไม่ได้นั้น มาเปิดโลกและติดตามกิจกรรมมันส์ๆ กับไฮเนเก้นได้ทาง www.facebook.com/Heineken และ instagram @heineken_th เพราะคุณอาจเป็นผู้โชคดีได้ร่วมเปิดประสบการณ์ทางดนตรีระดับโลกกับไฮเนเก้นแบบนี้ในครั้งต่อไป!
