โอเดอมาร์ ปิเกต์ (Audemars Piguet) จัดแสดงประวัติศาสตร์เรือนเวลาครั้งยิ่งใหญ่
ส่งตรงจากเลอ บราซู สู่กรุงเทพมหานคร กับนิทรรศการ “From Le Brassus to Bangkok”
แบบจำลอง 3 มิติของนิทรรศการ “From Le Brassus to Bangkok”
ทั้งนี้รูปแบบอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ในภายหลัง
โอเดอมาร์ ปิเกต์ สุดยอดแบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำโดย มร.โอลิเวียโร บอททิเนลลิ Board of Directors และ มร.โจนาธาน คิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟ ปาร์ตี้ ฉลองเปิดตัวนิทรรศการ “From Le Brassus to Bangkok” ครั้งแรกของการจัดแสดงประวัติศาสตร์เรือนเวลาครั้งยิ่งใหญ่ของโอเดอมาร์ ปิเกต์ ส่งตรงจากเลอ บราซู สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นิทรรศการที่บอกเล่าการเดินทางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์กว่า 143 ปี และจิตวิญญาณอันทุ่มเทต่อศาสตร์การประดิษฐ์เรือนเวลาชั้นสูงในแต่ละยุคสมัย ร่วมด้วยโชว์เคสผลงานชิ้นพิเศษที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างทรงพลัง รังสรรค์ขึ้นโดย “อริญชย์ รุ่งแจ้ง” ศิลปินร่วมสมัยเชื้อสายไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับเกียรติร่วมงานกับโอเดอมาร์ ปิเกต์ พร้อมเปิดตัว เจ-เจตริน วรรธนะสิน ในฐานะ ‘Friend Of The Brand’ คนไทยคนแรกอย่างเป็นทางการ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้ และโอเดอมาร์ ปิเกต์ เลิฟเวอร์ตบเท้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ เดิมพัน – เมลนีย์ อยู่วิทยา, พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์, จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล, พลอย ปิ่นแสง, อรชุมา ดุรงค์เดช, วาริธร กันท์ไพบูลย์, จักรกฤต เบเนเดทตี้, หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยา, ภัทร สาลีรัฐวิภาค, ภูมิพัฒน์ – โสภิณ รองรัตน์ เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน ณ ชั้น G ลานเอเทรี่ยม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี
ภายในงานแบ่งการจัดแสดงเป็นโซนต่างๆ อาทิ โซนต้นกำเนิดของศาสตร์แห่งการผลิตนาฬิกาชั้นสูง (Origins) อย่าง “วัลเลย์ เดอ ฌูซ์” (Vallée de Joux) ที่เสมือนพาคุณย้อนเวลาสู่จุดเริ่มต้นของแบรนด์โอเดอมาร์ ปิเกต์ โซนวิวัฒนาการเรือนเวลา (Designing Time) ที่หยิบเอานวัตกรรมชั้นเลิศมาหลอมรวมกับประเพณีการรังสรรค์เรือนเวลายุคก่อนได้อย่างน่าสนใจ ร่วมด้วยสุดยอดเรือนเวลารุ่นประวัติศาสตร์กว่า 50 เรือน ที่แต่ละชิ้นถูกเก็บรักษาและคัดเลือกอย่างพิถีพิถันโดย มร.เซบาสเตียน วิวาส ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งโอเดอมาร์ ปิเกต์ อาทิ นาฬิกาพก Triple Complication รุ่นบุกเบิกปี 1880, นาฬิกาอาร์ต เดโค ที่มาพร้อมระบบแสดงเวลาแบบ Jumping hours จากปี 1930, นาฬิการุ่นรอยัล โอ๊ค ออฟชอร์ รุ่นบุกเบิก ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1993, รวมไปถึงนาฬิการุ่นรอยัล โอ๊ค RD#2 ประดิษฐกรรมเวลาชิ้นเอกแห่งปี 2018 ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นเพอร์เพทชวล คาเลนดาร์ ที่บางที่สุดในโลก อีกหนึ่งไฮไลท์ห้ามพลาดคือการสาธิตหลากทักษะอันเชี่ยวชาญโดยช่างฝีมือชั้นสูง (Traditional Savoir-Faire) กับเบื้องหลังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเรือนเวลาที่หาชมได้ยาก ทั้งยังสะท้อนถึงปรัชญาหลักของแบรนด์ “To Break the Rules, You Must First Master Them” ได้เป็นอย่างดี
มร.โจนาธาน คิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เราตื่นเต้นกับนิทรรศการครั้งนี้มาก เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เรือนเวลาที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์กว่า 50 เรือน ถูกนำมาจัดแสดงที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ การมาเยือนในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญของโอเดอมาร์ ปิเกต์ ที่แสดงความขอบคุณต่อแฟนๆชาวไทย ทั้งยังสะท้อนถึงการเป็นตลาดสำคัญของโอเดอมาร์ ปิเกต์ อีกด้วย”
อริญชย์ รุ่งแจ้ง ศิลปินรับเชิญ กล่าวว่า “เพราะทุกที่บนโลกแห่งนี้ล้วนมีเรื่องราวและสิ่งที่ทำให้เราประหลาดใจอยู่เสมอ คอนเซ็ปต์ของงานชิ้นนี้จึงเป็นการถ่ายทอดเศษเสี้ยวของความทรงจำในช่วงเวลาที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำต่อสถานที่ต้นกำเนิดอย่าง เลอ บราซู หรือความทรงจำของผู้คนที่อาศัยที่นี่ โดยผมหวังว่าถึงแม้ผู้มาเยี่ยมชมจะยังไม่มีโอกาสไปเยือนสถานที่ในความทรงจำเหล่านั้น แต่พวกเขาก็สามารถจินตนาการและสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ของเรื่องราวผ่านทางภาพนิ่งและวิดีโอ อินสตอลเลชั่นที่โอเดอมาร์ ปิเกต์และผมร่วมกันครีเอทขึ้นนั่นเอง”
จากจุดเริ่มต้นในปี 1875 แม้ยุคสมัยและสไตล์จะเปลี่ยนไปเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่โอเดอมาร์ ปิเกต์ยังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่คือวิธีการคิดอันแสนท้าทาย เพื่อเผยให้เห็นถึงนวัตกรรมชั้นเลิศและศาสตร์แห่งศิลป์อันเชี่ยวชาญ นิทรรศการครั้งนี้จึงหลอมรวมเหตุการณ์สำคัญๆในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ไว้อย่างครบครัน