ใกล้จะถึงสิ้นปีแล้ว แต่โควิดก็ยังคงระบาดตามประเทศต่าง ๆ ทำให้ใครหลายคนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศไปตามที่แพลนไว้ได้ วันนี้เราเลยได้รวบรวม 15 ที่เที่ยวทั่วไทยสวยฟินเหมือนอยู่เมืองนอกมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ตามไปปักหมุดเช็คอินกัน งานนี้รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเสมือนจริงและได้เที่ยวถ่ายรูปมุมสวย ๆ เหมือนกันอย่างแน่นอน อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเงินซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาแพงและเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไกลให้เหนื่อยเหมือนอย่างเคย ว่าแล้วก็รีบเก็บกระเป๋าและไปดูกันว่าที่เที่ยวไทยที่สวยเหมือนไปต่างประเทศนั้นจะมีที่ไหนบ้าง และหากคุณต้องเดินทางไปด้วยเครื่องบินก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินในราคาสุดคุ้มได้ที่ Traveloka เลย เพราะเขามีฟีเจอร์ที่ให้คุณสามารถเทียบราคาของสายการบินต่าง ๆ มาให้แล้ว รับรองว่าคุณจะได้ตั๋วมาในราคาที่ถูกที่สุดอย่างแน่นอน

              หากใครอยากลองเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน อย่ารอช้าให้เปิด #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย หรือว่าเช็คราคาตั๋วเครื่องบินตามนี้ได้เลย > https://www.traveloka.com/th-th/promotion/promofilter

1.     คลองสังเน่ห์ พังงา

          คลองสังเน่ห์ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในจังหวัดพังงา เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และพืชพันธุ์ต่าง ๆ นานาชนิดที่น่าค้นหาและควรค่าแก่การเดินทางมาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้ง โดยที่เที่ยวแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น Little Amazon เพราะความงดงามและความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ซึ่งไฮไลท์เด็ดไม่ควรพลาดของการเดินทางมาที่นี่ก็คือ การล่องเรือชมบรรยากาศรอบ ๆ ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ และสัตว์ป่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น งูเขียว งูปล้องทอง งูเหลือม นกเงือก นกกระสา หรือสัตว์สงวนหายากอื่น ๆ อีกมากมาย

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 09.00-17.00 น.

 

2.     ภูป่าเปาะ เลย

          มาต่อที่เที่ยวถัดมาอย่างภูป่าเปาะ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเลย โดยสถานที่แห่งนี้มีจุดชมวิวที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูหอ ที่มีลักษณะคล้ายภูเขาไฟฟูจิในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา จนทำให้ภูหอแห่งนี้ถูกเรียกว่าเป็น ฟูจิแห่งเมืองเลย เป็นต้นมา โดยเราสามารถเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมทั้งสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้ทั่วถึงปอด และเก็บภาพความประทับใจโดยมีภูหอเป็นฉากหลังราวกับภาพวาดโปสเตอร์ได้อย่างงดงามจนน่าสะดุดตาเลยทีเดียว เรียกได้ว่าไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ก็ได้ฟินกันแบบเต็มที่แล้ว

เวลาทำการ : ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

 

3.     เวเนเซีย หัวหิน

          เวเนเซีย หัวหิน เป็นหนึ่งในที่เที่ยวไทยที่สวยเหมือนได้ไปเมืองนอก เนื่องจากภายในได้มีการออกแบบสถาปัตยกรรมในสไตล์ยุโรปสมัยใหม่ และได้มีการจำลองเมืองเหมือนต่างประเทศ ทำให้เมื่อนักท่องเที่ยวที่ได้ก้าวเข้าไปรู้สึกราวกับว่าได้เที่ยวอยู่ตามประเทศต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งภายในได้แบ่งออกเป็น  4 โซนหลัก ๆ ได้แก่ โซนร้านอาหารและเครื่องดื่ม โซนสินค้าแฟชั่นชั้นนำ โซนบริการไอที สปา และโซนสินค้าดีไซน์สร้างสรรค์งานศิลปะ รวมถึงของใช้ของตกแต่งบ้านที่สามารถเลือกซื้อกันได้อย่างตามอัธยาศัย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถถ่ายรูปในมุมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-20.00 น.

                      วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00 น.

 

4.     หมู่บ้านมังกรสวรรค์ สุพรรณบุรี

          หมู่บ้านมังกรสวรรค์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี โดยภายในได้มีการจำลองตึกอาคารต่าง ๆ ให้เหมือนกับหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ในเมืองลีเจียง ประเทศจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสความสวยงามของสถาปัตยกรรม พร้อมทั้งเดินชมบริเวณรอบ ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายสินค้าของที่ระลึก โรงเตี๊ยม โรงนวด ร้านอาหาร โรงหนัง ตลอดไปจนถึงประติมากรรมอย่างเสามังกรฟ้าที่ตั้งอย่างโดดเด่น รวมถึงหอชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบ ๆ ได้แบบ 360 องศา

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 08.00-18.00 น.

 

5.     อุทยานแห่งชาติเขาสก เขื่อนรัชชประภา

          อุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นหนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยเป็นจำนวนมากอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปี เนื่องจากความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพืชพรรณมากมายหลายชนิด รวมถึงน้ำตก หน้าผา ถ้ำ และเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงามจนเกิดเป็นมุมถ่ายรูปมหาชนยอดฮิต และสัญลักษณ์อันสำคัญของอุทยานแห่งนี้ จนทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่าเป็นกุ้ยหลินแห่งเมืองไทยที่สวยไม่แพ้ของจริงในประเทศจีนเลย เรียกได้ว่าไม่เป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่สวยเหมือนเมืองนอกเลยทีเดียว

เวลาทำการ : ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

 

6.     บ้านรักไทย แม่ฮ่องสอน

          ที่เที่ยวไทยสวยฟินเหมือนเมืองนอกถัดมาที่เราอยากแนะนำเลยก็คือ หมู่บ้านรักไทย ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยสถานที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานที่ถูกรายล้อมไปด้วยหุบเขาใหญ่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปมา และเป็นสถานที่ปลูกชาพันธุ์ดีหรือพืชเมืองหนาวหลากหลายชนิด เนื่องจากที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีนั่นเอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเพื่อนั่งจิบชากันแบบชิล ๆ ถ่ายรูปคู่กับฉากหลัง หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ เดินป่าศึกษาเส้นทาง ปั่นจักรยานรอบหมู่บ้าน หรือขี่ม้าข้ามแดน พร้อมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมไทย-จีนได้อย่างใกล้ชิด

เวลาทำการ : ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

 

7.     เกาะพระทอง จ.พังงา

          เกาะพระทอง เป็นที่เที่ยวขึ้นชื่อในจังหวัดพังงาที่มีลักษณะคล้ายทุ่งหญ้าสะวันนาในแอฟริกา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ส่องกระทบลงมาบนต้นหญ้าที่เรียงรายเต็มไปทั่วบริเวณได้อย่างงดงาม จนเกิดเป็นที่เที่ยว unseen แห่งเมืองไทยที่ใครก็อยากมาเยือนด้วยตนเองสักครั้ง โดยเกาะแห่งนี้มีความเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในตัวเมืองและอยากซึมซับไปกับบรรยากาศธรรมชาติ อีกทั้งที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำอย่างมากมาย เช่น แคมป์ปิ้ง  ปั่นจักรยาน ชมทุ่งหญ้าสะวันนารอบ หรือการสัญจรบนเกาะ พร้อมทั้งเก็บภาพอย่างรัว ๆ นั่นเอง 

เวลาทำการ : ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

 

8.     เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล  มัลดีฟเมืองไทย

          เกาะหลีเป๊ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา ซึ่งเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อในเรื่องความใสของน้ำทะเลสีฟ้าคราม หาดทรายขาวละเอียด และประการังอันสมบูรณ์ ตลอดไปจนถึงสิ่งมีชีวิตและปลาการ์ตูนหลากสีสันต่าง ๆ ใต้น้ำอย่างมากมาย จนทำให้เกาะแห่งนี้ได้รับการขนามนามว่าเป็นมัลดีฟส์แห่งเมืองไทย และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องการเดินทางมาเช็กอินเป็นจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามและซึมซับไปกับบรรยากาศอันบริสุทธิ์ พร้อมทั้งเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวเกาะได้อย่างใกล้ชิดแน่นอน

เวลาทำการ : ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

 

9.       ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

          หนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเมืองไทยที่สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่าง ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ที่นับได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสวยงามในเรื่องของธรรมชาติมากที่สุด โดยสถานที่แห่งนี้จะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินเที่ยวชมและศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่มีให้คุณได้เดินแวะชมกว่า 21 จุดด้วยกัน ซึ่งแนะนำเลยว่าเมื่อใครมาที่ดอยแห่งนี้แล้วละก็จะต้องเดินขึ้นมาชมจุดชมวิวทะเลหมอกอันสวยงามที่จะทำให้คุณเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ที่เมืองสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว เพราะด้วยบรรยากาศของทิวเขาที่เรียงสลับซับซ้อนไปมาและทะเลหมอกที่สวยงามทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่ใครก็ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 05:00-18:00 น.

 

10.      ผาช่อ จ.เชียงใหม่

           ผาช่อ หรือ แกรนด์แคนยอนเมืองเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวที่คุณจะสามารถเดินทางมาหามุมถ่ายรูปสวย ๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน เพราะด้วยความสวยงามที่มีลักษณะเป็นภูผาหินที่เกิดการดัดแปลงรูปทรงต่าง ๆ โดยธรรมชาติจึงทำให้บริเวณสถานที่แห่งนี้มีรูปทรงที่แปลกตาไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นความงดงามที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวชมกันได้อย่างสนุกสนาน รับรองเลยว่าไม่ต้องไปถึงอเมริกาก็สามารถถ่ายกับแกรนด์แคนยอนสวย ๆ ที่เมืองไทยได้

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 08:30-16:30 น.

 

11.      เจดีย์พุทธคยา  จ.กาญจนบุรี

          เดินทางต่อไปยัง เจดีย์พุทคยา จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาที่เมื่อมองดูจากภายนอกแล้วจะเห็นได้ว่ารูปทรงในการออกแบบจะมีความเป็นพุทธสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงามราวกับว่าเรายกเจดีย์พุทธคยาที่อินเดียมาไว้ที่เมืองไทยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโทนสี และลวดลายต่าง ๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดีและมีความงดงามเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นหากใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีแล้วละก็สามารถเข้ามาชมความงดงามและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลได้ที่นี่เลย

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 08:00-16:30 น.

 

12.    Hinoki Land

          ไม่ต้องเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่นก็สามารถมาเดินเที่ยวเล่นไปพร้อมกับการถ่ายรูปสวย ๆ ได้ที่ Hinoki Land สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่มีการจำลองแหล่งท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นให้มาอยู่ในเมืองไทย โดยจะเป็นการออกแบบสถาปัตยกรรมให้มีความงดงาม และรายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์รวมไปถึงทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้เมื่อมองไปบริเวณโดยรอบคุณยังจะได้สัมผัสไปกับทิวเขามากมายที่เรียงรายเป็นฉากหลังที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ ไปเลย แนะนำเลยว่าถ้าใครกำลังหามุมถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนอยู่เมืองนอกแล้วละก็ที่ Hinoki Land จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 08:00-17:00 น.

 

13.     Primo Piazza เขาใหญ่

            Primoza Piazza เขาใหญ่ดินแดนแห่งอิตาลีเมืองไทยที่ไม่ต้องไปไกลถึงยุโรปก็สามารถมาเที่ยวเลยได้อย่างสนุกสนานโดยภายในพริโมซ่าแห่งนี้จะเรียงรายไปด้วยตึกทรงยุโรปมากมาย และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยกลิ่นอายของความเป็นอิตาลีเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีทิวเขาเขียวขจีโดยรอบที่ทำให้บริเวณสถานที่แห่งนี้น่าค้นหาอีกเท่าตัว ดังนั้นหากใครที่หาสถานที่ถ่ายรูปในเขาใหญ่สวย ๆ ก็สามารถมาเดินเล่นแวะชมความงดงาม และมาร่วมสนุกไปกับการทำกิจกรรมภายในสถานที่แห่งนี้ได้เพราะนอกจากจะมีตัวตึกให้ถ่ายรูปแล้วยังมีฟาร์มอัลปาก้า และร้านค้าต่าง ๆ ด้านในให้คุณได้มาเดินช้อปปิ้งกันอีกด้วย

เวลาทำการ : ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี 09:00-23:00 น.

 

14.      ปางอุ๋ง

           เลี่ยงไม่ได้เลยเมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยที่สวยฟินเหมือนกับเมืองนอกคงต้องไม่พ้นกับ ปางอุ๋ง ทะเลสาบท่ามกลางธรรมชาติของต้นไม้ใหญ่เขียวขจีอันงดงามที่จะทำให้คุณต้องหลงใหลไปกับภาพบรรยากาศตรงหน้าที่มีความละม้ายคล้ายคลึงทะเลสาบในเมืองนอกกันเลยทีเดียว และยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าหนาวด้วยแล้ว จะยิ่งได้สัมผัสไปกับความเย็นของทะเลหมอกที่ลอยเหนือน้ำทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่ 05:30-18:00 น.

 

15.      สวนสนบ่อแก้ว

           และแล้วก็เดินทางมาถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายในเมืองไทยที่มีความสวยงามราวกับอยู่เมืองนอกอย่าง สวนสนบ่อแก้ว แหล่งถ่ายรูปชื่อดังของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงาม เพราะบริเวณสถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยต้นสนกว่าหลายพันต้นเรียงรายเป็นแนวยาวจนมีลักษณะคล้ายกับป่าไผ่ในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดเช็กอินให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชมความสวยงามของต้นสนนั่นเอง

เวลาทำการ : ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ 08:00-17:00 น.


             เป็นอย่างไรกันบ้างกับการพาทุกคนเดินทางไปยัง 15 ที่เที่ยวทั่วไทยสวยฟินเหมือนอยู่เมืองนอก ที่จะทำให้คุณได้เปิดโลกแห่งการท่องเที่ยวว่าเมืองไทยของเราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณยังไม่รู้จัก และยังไม่ได้เดินทางมาสัมผัสความสวยงามอีกมาก ดังนั้นถ้าใครอยากมาชมความงดงามแบบนี้แล้วละก็จองตั๋วเครื่องบินแล้วตามมาเที่ยวกับเราได้เลย

 

 

Facebook Comments Box