เรื่องและภาพ : แจนยูอารี
รู้จักกันในฐานะตำนานร้านอาหารจีนกวางตุ้ง ขายกันตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ สืบทอดความอร่อยสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ปัจจุบันเท่าที่อัพเดตมี 2 สาขา ได้แก่ สาขาถนนงามวงศ์วาน ซึ่งหากเดินทางมาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงแยกพงษ์เพชร กับสาขาถนนประดิพัทธ์ เยื้องกับประดิพัทธ์ ซอย 15
เดิมที ก่อนจะมีร้านที่ประดิพัทธ์ ร้านเคยตั้งอยู่ถนนพหลโยธิน ถัดจากสะพานลอยวัดไผ่ตัน แต่พอสัญญาเช่าตึกหมดลง เจ้าของร้านจึงจำต้องย้ายหาทำเลใหม่และได้มาปักหลักที่ถนนประดิพัทธ์ แน่นอนว่าแฟนๆ ก็ยังตามมาอุดหนุนกันออย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หนึ่งในนั้นคือแจนยูอารี ที่มักมาฝากท้องเสมอ ด้วยว่าเดินทางสะดวกและใกล้บ้าน ซี่งตอนนี้เขาปรับปรุงร้านอย่างดี มีแอร์นั่งเย็นฉ่ำสบายกว่าแต่ก่อนมาก และที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปคือ ความอร่อยของเป็ดย่าง ที่กินทีไรแจนยูอารีก็ต้องบอกว่าไม่เคยเบื่อ
เป็ดย่างสีสวยแขวนเรียงเป็นรายตัวในตู้กระจก สาวกเป็ดย่างเห็นแล้วน้ำลายสอกันเลยละ เป็ดย่างที่นี่แม้ตัวจะค่อนข้างใหญ่ แต่พอย่างออกมากลับได้ความนุ่มของเนื้ออย่างมาก ส่วนหนังเป็ดก็บางและกรอบ ถ้าอยากจะฟินไปสามโลกแนะนำสั่งเป็ดย่างเป็นจาน เล็ก-กลาง-ใหญ่ ตามแต่ใจปรารถนา เสิร์ฟพร้อมน้ำราดรสกลมกล่อม กินคู่ซีอิ๊วพริกดอง
กลิ่นสาบเป็ดที่หลายคนกังวลไม่มีมากวนใจ เพราะสูตรหมักเป็ดเขาดับด้วยเครื่องเทศจำพวกขิง ข่า และพริกไทย ทำให้กินได้เพลินๆ เกินจะหยุดวางตะเกียบ ถ้าอยากลองความเผ็ดร้อนแบบไทยๆ ควรจะสั่ง ‘กะเพราเป็ดย่าง’ แจนยูอารีขอยกให้เป็นสุดยอด ลำพังเป็ดย่างว่าอร่อยเหาะ พอมาเจอกับใบกะเพราและพริกขี้หนูบุบ ปรุงรสจัดจ้าน คนไม่กินเผ็ดอย่าลืมสั่งให้พ่อครัวลดปริมาณพริก ไม่อย่างนั้นจะเผ็ดจนกินไม่ไหว อ้อ…อย่าลืมสั่งไข่ดาวกรอบเกรียบโปะมาด้วยละ ถึงจะเรียกว่าครบสูตรความอร่อยของกะเพราเป็ดย่าง
เมนูยืนพื้นที่ใครก็ต้องลิ้มลองคือ ‘บะหมี่เป็ดย่าง’ มีทั้งแบบแห้งและน้ำ แต่แจนยูอารีว่าแห้งเริดกว่า มีน้ำราดนิดหน่อยในชาม หวานพอดี คลุกเคล้าบะหมี่กับเป็ดย่าง ตักพริกดองน้ำส้มใส่ แค่นี้ก็พร้อมหม่ำได้ทันควัน หรืออยากจะเผ็ด ก็เหยาะพริกป่น รับรองว่าจะพบกับความอร่อยของบะหมี่เป็ดย่างที่หาได้จากที่นี่เท่านั้น
ไม่กินบะหมี่ก็มี ‘ข้าวหน้าเป็ด’ เป็ดย่างสับโปะมาบนข้าวสวย ผักบุ้งจีนลวก ตามด้วยน้ำราด ขาดไม่ได้คือ พริกดองในซีอิ๊ว ช่วยตัดเลี่ยน หรืออยากเพิ่มความอลังการก็ควรสั่งหมูกรอบใส่มาในจาน เชื่อเถอะว่าจานนี้จะได้ทั้งความนุ่มของเป็ดย่างและความกรอบของหมูกรอบ ที่กินกับข้าวสวยเปล่าๆ ก็ยังอร่อย
เมนูอื่นที่ถือเป็นซิกเนเจอร์สไตล์จีนกวางตุ้ง ว่าไปก็ยังมีอีกเพียบ ‘สตูลิ้นวัว’ ‘กระเพราะปลาน้ำแดง’ ‘กระเพาะปลาผัดแห้ง’ แต่ที่แจนยูอารีเคยติดใจอยู่พักใหญ่ หนีไม่พ้น ‘ราดหน้าเนื้อ’ เนื้อหมักนุ่มลิ้น ผัดมาในน้ำราดหน้ารสไม่หวาน น้ำราดหน้าก็ไม่ได้ข้นเหนียวเกินไป ที่ดีงามคือคะน้า เขาลวกพอให้กรอบ คัดเฉพาะส่วนยอดกับก้าน ใครชอบจะเน้นผักเขาก็จัดให้ หรือจะสั่งเป็นเกาเหลาก็ได้
อีกเมนูสำหรับคนกินเนื้อคือ ‘ยำเนื้อย่าง’ แจนยูอารีกินมาก็หลายร้าน แต่ร้านนี้พ่อครัวทำได้ถูกลิ้น นอกจากเนื้อย่างไม่เหนียวแล้ว เนื้อยังฉ่ำน้ำยำ รสจัดแบบไม่หวงเครื่อง เหมาะเหลือเกินที่จะเป็นกับแกล้มชั้นดี แต่ถ้าจะกินกับข้าวสวยร้อนๆ จานนี้จานเดียวก็อิ่มแปล้ ขายอยู่ที่ 160 บาท ขณะที่ราดหน้าเนื้อ อิ่มเบาๆ จานละ 80 บาท ส่วนบะหมี่เป็ดย่างเริ่มต้นที่ชามละ 40 บาท สั่งพิเศษก็ชามละ 50 บาท กะเพราเป็ดย่าง จานละ 80 บาท
ร้านหยิ่วกี่ สาขาประดิพัทธ์ เปิดบริการทุกวัน 07.00-20.00 น. หรือจะซื้อเป็ดย่างเป็นตัวๆ ก็โทร.สั่งได้ที่ (02) 278-5773, (02) 279-3199