เรื่อง ดอมดม
มหกรรมหนังสือนานาชาติ “45th National Book Fair and 15th Bangkok International Book Fair 2017” เริ่มขึ้นแล้วนับแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 9 เมษายน 2560 แต่ก่อนจะชักชวนกันไปเฟ้นหาหนังสือสำหรับอ่าน เพื่อความรื่นรมย์ เพื่อหาความรู้ หรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่ เราลองมาฟังดูว่า บรรดาเซเลบหรือคนดังในแวดวงสังคมอ่านหนังสืออะไร … เล่มล่าสุด และพวกเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับการอ่านหนังสือ
1.ช้องมาศ บางชะวงษ์
“ก่อนหน้านี้กวางได้ดูละครเรื่อง ‘สี่แผ่นดิน’ แล้วมีคนแนะนำให้ไปอ่านหนังสือเรื่อง ‘ร่มฉัตร’ ของทมยันตี (สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม) เพราะว่าเนื้อเรื่องคล้ายคลึงกันคือ ‘สี่แผ่นดิน’จะเป็นการผลัดเปลี่ยน 4 รัชกาล ส่วนเรื่อง ‘ร่มฉัตร’จะเป็นการผลัดเปลี่ยน 5 รัชกาล “คุณวาด”คือตัวละครหลักของเรื่องนี้ เธอมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล การผลัดเปลี่ยนแผ่นดินในช่วงรัชกาลที่ 7 ทำให้เธอรู้สึกหัวใจสลาย เพราะระบอบกษัตริย์ที่เธอและคนไทยทุกคนหวงแหนถูกปฏิวัติโดยครอบครัวของเธอเอง อ่านแล้วจะเข้าใจเลยว่าทำไมชาวสยามถึงรักและจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน กวางอ่านหนังสือเล่มนี้เมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว สำหรับเล่มต่อไปก็คงไม่พ้นนิยายหรือประวัติศาสตร์ เพราะเป็นคนสนใจหมวดนี้ค่ะ เวลาที่มักจะอ่านคือช่วงหลังตื่นนอน เพราะเป็นช่วงว่างที่สุด หลังจากนั้นแล้วจะมีกิจกรรมยุ่งทั้งวันค่ะ”
การอ่านสำคัญอย่างไร
“ทำให้เราทราบสิ่งที่เราไม่รู้ อย่างเราชอบประวัติศาสตร์ ถ้าเราไม่ค้นคว้าเราก็จะไม่ทราบที่มา เหตุผล และรายละเอียด แล้วทุกวันนี้คนจะอ่านจากที่อื่นมากขึ้นอย่างในสมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ต แต่ถ้าเราสนใจเรื่องไหนจริงๆ เราน่าจะอ่านที่ตัวเล่มกันนะคะ”
2.ลลนา พานิช
“หนังสือเล่มล่าสุดที่อ่านคือ ‘The Picture of Dorian Gray’ ของ Oscar Wilde (สำนักพิมพ์ Alma Classics) ที่อ่านเรื่องนี้เพราะอยากมองหาความแปลกใหม่ แค่ชื่อผู้เขียนก็การันตีได้แล้วว่าในหนังสือเล่มนี้จะต้องมีอะไรดีๆ แน่นอน เขาใช้ภาษาไม่ซับซ้อน แต่มีวิธีการเขียนที่ลึกซึ้งและมีเสน่ห์มาก ตัวอักษรทุกคำมีความหมาย เช่น “You are one of her favourites and, I am afraid, one of her victims also.” หมายความว่า ถึงแม้เราจะแสดงออกว่าชอบอะไร แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่แน่เสมอไป ซึ่งมันสะท้อนความจริงแบบซึ่งหน้าในลักษณะของมนุษย์”
การอ่านสำคัญอย่างไร
“เราโตมาในบ้านที่ทุกคนอ่านหนังสือ ในแต่ละช่วงอายุเราจะอ่านหนังสือแตกต่างกัน ตอนเด็กก็อ่านเพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น พอโตขึ้นเราอาจจะอ่านได้น้อยลง แต่จะเลือกอ่านหนังสือที่ท้าทายความคิดเรามากขึ้น สำหรับเราหนังสือคือเพื่อน คือสิ่งที่ช่วยสร้างจินตนาการ”
3.ดร.สิริพร (ณ ป้อมเพชร) อัลภาชน์
“’The Last Lecture’ คือหนังสือเล่มที่อ่านล่าสุด เขียนโดย Randy Pausch แปลโดยวนิษา เรซ เล่มนี้เป็น New York Times Best Sellers ปี 2008 ด้วย เป็นเรื่องราวของผู้เขียนที่รู้ว่าตัวเองกำลังป่วยหนัก มีเวลาอยู่กับคนที่รักน้อยลงทุกที แต่เขาไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังกับชีวิต ตรงกันข้ามคือเขา “เตรียมตัวตาย” ได้อย่างสวยงาม มันน่าสนใจว่าคนป่วยที่กำลังจะจากโลกนี้ไปโดยต้องทิ้งครอบครัวไว้จะรู้สึกอย่างไร และจะใช้ชีวิตแต่ละวันที่เหลืออย่างไร ซึ่งเขาบรรยายครั้งสุดท้ายในหัวข้อ “Really Achieving Your Childhood Dreams” ได้น่าประทับใจมาก คือถ้าคุณรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย คุณจะใช้ปัญญาที่มีทำอะไรให้แก่โลกใบนี้ ที่สำคัญคือหนังสือเล่มนี้สอนการเลี้ยงลูกได้น่าสนใจมาก ทำอย่างไรเราถึงจะสร้างสมาชิกที่มีคุณค่าแก่สังคม เขาสอนการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า “Life is to be lived.” ไม่ว่าชีวิตจะสั้นหรือยาว คุณภาพการใช้ชีวิตสำคัญกว่าปริมาณมากมายนัก”
การอ่านสำคัญอย่างไร
“การอ่านหนังสือเป็นการเพิ่มความรู้ ช่วยกระตุ้นสมอง ลดความเครียด ทำให้จิตใจสงบ และยังช่วยปรับระบบความคิด และทำให้การเขียนของเราดีขึ้นด้วย ยิ่งอายุมากก็ยิ่งต้องอ่านมากขึ้น เพราะจะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์”
4.สะคราญกมล อุทัยศรี
“ต้ามักจะถามคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นมาจากอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ก็บอกว่าชีวิตของเขาเริ่มต้นจากการ “อ่าน” และ “ลงมือทำ” พอรู้อย่างนั้นแล้ว จากเดิมที่เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ก็เลยหันมาใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือนานถึง 4 ชั่วโมง เพื่อเลือกหนังสือที่คิดว่าน่าสนใจที่สุด แล้วก็ไปเจอเรื่อง ‘Think & Grow Rich คิดแล้วรวย’ ผู้เขียนคือ Napoleon Hill เรียบเรียงโดย กมล แสงทองศรีกมล (สำนักพิมพ์ซีเอ็ดยูเคชั่น) หลังจากที่อ่านก็เกิดความฮึกเหิมอยากจะพัฒนาตัวเอง ไม่อยากหยุดอยู่กับที่ มีประโยคหนึ่งที่ต้าชอบคือ “ความสุขไม่ได้มาจากการครอบครองความสุขเท่านั้น แต่เกิดจากการที่ได้ทำอะไรแล้วมีความสุขด้วย” ซึ่งมันจริงมาก ต้ารู้สึกว่าชีวิตคนเราจ้องแต่จะมองหาความสุข แต่ถ้าไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรคือความสุขที่แท้จริง”
การอ่านสำคัญอย่างไร
“การอ่านหนังสือจะทำให้เราเกิดสติปัญญาและเปิดโลกทัศน์ในมุมมองใหม่ๆ มากขึ้น และเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ เวลาคุยกับใครหรือทำธุรกิจใดๆ เราจะรู้เท่าทันคนอื่น เพราะเรามีต้นทุนที่สะสมมาจากการอ่านหนังสือ”
5.ธีรกิตติ์ จารุจินดา
“ผมอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวิสกี้ให้ลึกซึ้งในทุกๆ ด้าน ก็เลยอ่านหนังสือที่ชื่อ ‘A Double Scotch’ เขียนโดย F. Paul Pacult (สำนักพิมพ์ John Wiley & Sons, Inc.) พออ่านแล้วผมก็ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะมากเกี่ยวกับศาสตร์ของการดื่ม และยังได้เคล็ดลับอีกหลายอย่างที่ผมสามารถนำไปสอนหรือใช้ในการทำงาน ประโยคที่ผมประทับใจคือที่มาของชื่อผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังนั่งเถียงกันเรื่องการตั้งชื่อบริษัท Alexander ก็พูดขึ้นมาว่า “How about ‘Chivas Regal’? How does that sound?” จึงทำให้มีวิสกี้ดีๆ ชื่อว่า Chivas Regal มาจนถึงทุกวันนี้”
การอ่านสำคัญอย่างไร
“หนังสือมีความสำคัญเสมอไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรก็ตาม ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งรู้มาก ทำให้เราได้เปรียบคนอื่น”
6.สุรัชนี อดุลประเสริฐสุข
“เราไปฟังสัมมนางานโฆษณาแล้วเห็นว่ามีการนำทฤษฎี Golden Circle มาพูดบ่อย ซึ่งมารู้ทีหลังว่ามาจากหนังสือเรื่อง ‘Start with WHY’ เขียนโดย Simon Sinek (สำนักพิมพ์ Amazon Books) พอไปร้านหนังสือก็เห็นว่าเล่มนี้ได้เป็นหนังสือแนะนำก็เลยซื้อมาอ่าน ตอนแรกคาดหวังแค่ว่าอ่านแล้วจะได้ความรู้ไว้ใช้คิดงาน แต่มันเปลี่ยนชีวิตเลยละ อ่านจบแล้วอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองและคนรอบตัว เราถึงกับลุกขึ้นมาประชุมบริษัทเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง คือหนังสือเล่มนี้ทำให้เราคิดได้ว่า ทุกการกระทำต้องเริ่มจากคำถามง่ายๆ ว่าทำไปทำไม แล้วเราก็ต้องยึดมั่นในสิ่งนั้น ระหว่างทางเราก็จะไม่หลงไปกับสิ่งยั่วยุ”
การอ่านสำคัญอย่างไร
“หนังสือทำให้เรารู้ทุกเรื่องได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เช่น เรื่องการท่องเที่ยว เราไม่เคยไปอินเดีย ก็อ่านได้จากคนที่เขาไปแล้วมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง”
7.ปรินท์ สารสิน
“หนังสือเล่มล่าสุดที่ผมอ่านคือ ‘X: The Experience When Business Meets Design’ ของ Brian Solis (สำนักพิมพ์ Wiley) บังเอิญว่าผมไปเห็นเจ้านายเก่าแนะนำหนังสือนี้ในทวิตเตอร์ เลยลองเสิร์จในอินเตอร์เน็ตดูแล้วก็สั่งซื้อมา หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการทำธุรกิจ โดยบอกว่าประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการทำธุรกิจ คือถ้าเรามีแค่โปรดักต์อย่างเดียว แต่ไม่สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่ มันก็ไม่มีความหมาย ถ้าเราไม่มีประสบการณ์ ลูกค้าก็จะเปลี่ยนใจไปเลือกคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย ผมได้นำความรู้จากหนังสือเล่มนี้มาใช้ในการทำงานด้วย อย่างเวลาอธิบายงานให้ลูกน้องในทีมฟัง บางทีก็ยาก เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่และซับซ้อน แต่หนังสือเล่มนี้ทำให้เรามีจุดโฟกัสร่วมกันแค่จุดเดียว และใช้คำอธิบายที่เข้าใจง่าย ก็เลยเป็นเหมือนเครื่องมือที่เราใช้พัฒนาบุคลากรในทีม”
การอ่านสำคัญอย่างไร
“มนุษย์เราต้องรับข้อมูลข่าวสาร ซึ่งถ้าเป็นการฟัง แล้วเราไม่ได้ตั้งใจฟังจริงๆ ก็จะได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ทำให้เราไม่ได้รับประโยชน์จากข้อมูลนั้นอย่างเต็มที่ แต่ถ้าเป็นการอ่านหนังสือ เราจะมีเวลาอยู่กับตัวเอง ได้ตั้งใจรับข้อมูล เราไม่เข้าใจตรงไหนก็หยุดแล้วกลับไปอ่านอีกทีก็ได้ นี่คือเสน่ห์ของการอ่านหนังสือ”