เรื่อง : ขาว-ดำ
ภาพ : วีระพจน์ อัศวาจารย์ Surround

              ศิลปินหนุ่มลูก 3 มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า นำโชค ทะนัดรัมย์ มีพื้นเพจากบุรีรัมย์ และมีดีเอ็นเอด้านดนตรีจากผู้เป็นพ่อ สิงโตเริ่มเส้นทางนักร้องตั้งแต่วัยหนุ่ม จากร้านกาแฟกระทั่งตั้งวง (โมโน) และผันตัวเองเป็นศิลปินเดี่ยวในที่สุด ชื่อของเขาเป็นที่คุ้นหูของนักฟังเพลงรุ่นใหม่ รวมถึงแฟนคลับรายการ ‘The Voice’

1.เปิดตัวซิงเกิลเพลงใหม่ด้วยกระแสอวดหุ่นแซ่บ ผลตอบรับตอนนี้เป็นอย่างไร

               ซิงเกิลใหม่ตอนนี้กระแสดีมากครับ ตอนนี้ปล่อย MV ออกมาให้ชมทางยูทูบแล้ว ส่วนเรื่องถ่ายแบบเป็นความบังเอิญครับ พี่ตุ๊ (วีระพจน์ อัศวาจารย์) จากเพจ Surround  ที่เขาถ่ายนายแบบอยู่แล้ว เขาอยากลองวิธีใหม่ๆ หาคนที่ไม่ใช่นายแบบ อาจจะเป็นนักดนตรีไปลองถ่ายแบบดู เขาเลยติดต่อมาที่ค่าย ผมก็เลยลองไปถ่ายดู แต่เป็นถ่ายแบบเสื้อผ้าแพงๆ ให้ดูหรูๆ จริงๆ โฟกัสไปที่การถ่ายเสื้อผ้านั่นแหละครับ แต่ว่าก็มีบางรูปที่ถอดเสื้อผ้า ผมคิดว่าคนน่าจะตกใจกันนะครับว่าทำไมสิงโตมาถ่ายแนวนี้ เพราะเราไม่เคยถ่าย แต่ดูโดยรวมแล้วเขาก็แชร์กัน ไม่มีใครว่าอะไรนะครับ ก็ถือว่าโชคดีไปครับ  

2.ช่วยเล่าเรื่องการดูแลร่างกายและหุ่นให้ฟังหน่อยว่าทำอะไรบ้าง

               เริ่มแรกเลยเริ่มต้นจากการเห็นดาราเขาออกกำลังกายกัน เราก็อยากทำบ้าง เพราะว่าเราอยากมีหุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มอย่างเขาบ้าง เราเลยไปออกกำลังกายมา ประมาณ 2 ปีที่แล้ว แต่พอเราโฟกัสเรื่องหุ่นเกินไปแล้วมันท้อ ก็เลยเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ว่า งั้นเราออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงดีกว่า เพราะช่วงที่เราออกกำลังกายฟิตหุ่นมันได้สุขภาพกลับมาด้วย ไม่เจ็บ ไม่ไข้  ก็รู้สึกว่าดี กินอาหารที่มีประโยชน์นี่ก็สำคัญ แล้วก็พักผ่อนด้วยครับ

3.สิงโตชอบเพลงไหนที่เป็นผลงานของตัวเองมากที่สุด

               เพลง ‘R U OK (เช็ด)’ นี่แหละครับ (หัวเราะ) อันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะโปรโมตอะไรนะครับ แต่ว่าผมเป็นคนที่แต่งเพลงออกมาแล้วมักจะชอบงานของตัวเอง จริงๆ งานที่ผมแต่งมาผมก็รู้สึกภูมิใจกับงานของผมทุกชิ้นงาน ยิ่งงานไหนเพิ่งเสร็จล่าสุด ผมจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ อยากให้เพื่อนๆ ฟัง ตอนนี้เลยชอบเพลงนี้เป็นพิเศษครับ

4.เพลงไหนที่เป็นตัวตนของสิงโตมากที่สุด

               ผมก็อยากจะบอกว่าเพลง ‘R U OK (เช็ด)’ อีกเหมือนกันครับ เพราะว่าเพลงมันก็แล้วแต่ยุคสมัยของมัน คือช่วงอายุหนึ่งเราได้รับอิทธิพลอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เรามองเห็น เรื่องราวที่เราสัมผัส เราก็แต่งเพลงออกมาในยุคนั้น ที่นี้ถ้าเป็นยุคนี้ อย่างเพลงล่าสุด ผมใช้ประสบการณ์ชีวิตที่ได้เจอสิ่งเหล่านั้นเหล่านี้ที่เป็นตัวของตัวเองก็แต่งเพลงขึ้นมา คิดว่าน่าจะเป็นเพลง ‘R U OK (เช็ด)’ นี่แหละครับ เป็นผู้ชายใจดี เป็นห่วงเป็นใยคนอื่น

5.ถ้าไม่ใช่ “หนวด” กับ “หมวกปานามา” มีอะไรที่พอจะแทนได้บ้าง

               คิดว่าไม่มีอะไรแทนได้ครับ ทุกอย่างเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของมันอยู่แล้วครับ

6.ถ้าไม่ชื่อ “สิงโต” จะตั้งชื่อตัวเองเป็นสัตว์อะไร

               อันนี้แล้วแต่ยายเลยครับ (หัวเราะ) คือสิงโตนี่มาจากยาย จริงๆ พ่อกับแม่เรียกผมว่า “โต” แต่ยายไม่เข้าใจว่าโตคืออะไร เพราะหลานที่บ้านก็มีไก่ รู้จักตูบ แต่โตไม่รู้มาจากไหน แกเลยเรียกสิงโต

7.หน้าตาไม่กรุ๊บกริ๊บแบบบอยแบนด์ คิดว่าสิ่งที่ทำให้สิงโตยังสามารถยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้เพราะอะไร

                ผมคิดว่าน่าจะเป็นความตั้งใจของผม ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดในแบบของผม เพราะว่าการที่ผมทำผมก็มีความสุขกับมัน พอมีความสุขกับมันผมก็จะอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข แล้วพอคิดเพลงออกมามันจะฟังดูสบาย รู้สึกดีไปหมด

8.การเป็นโค้ชในรายการ ‘The Voice’ จนประสบความสำเร็จแล้ว ทำให้รู้สึกกดดันกับการเป็นนักร้องของตัวเองหรือไม่

               ไม่กดดันนะครับ จริงๆ แล้วผมเลือกที่จะยึดหลักการแต่งเพลงแบบเดิมๆ หมายถึงวิธีคิดนะครับ ไม่ใช่ทำเพลงแบบเดิมๆ ผมก็ทำงานให้สนุก สุขไปกับมัน อย่าไปเครียดมาก เพราะถ้าเครียดมากสิ่งที่จะได้ออกมาก็คือความเครียดในผลงานเพลง ซึ่งคนฟังเขาก็จะรู้อยู่แล้วว่าเราเครียด ผมก็เลยตั้งอัลบั้มชุดใหม่ว่า Just Have Fun with It’ ครับ ซึ่งตอนนี้มีซิงเกิลที่ 3 ชื่อว่า ‘R U OK (เช็ด)’ ครับ

9.สถานที่ที่สิงโตชอบไปมากที่สุด

                ผมชอบไปภูเก็ตนะครับ ชอบบรรยากาศที่นั่น แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยมาก เพราะว่าค่อนข้างไกล เสียตังค์ด้วย (หัวเราะ) แต่ถ้ามีงานไปเล่นที่นั่นก็จะดีใจมาก เหมือนได้ไปเที่ยวด้วย

10.ถ้าสิงโตไปออกรายการ ‘The Mask Singer’ คิดว่าตัวเองเหมาะกับหน้ากากอะไร

                ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเลยครับ (หัวเราะ) แต่ถ้าให้คิดตอนนี้ ขอเป็นหน้ากากแมวละกันครับ (แอบเห็นหนังสือแมวพอดี)

11.สถานการณ์ไหนบ้าง ที่ทำให้สิงโต “อยากอยู่ต่อ”

                สถานการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ ไม่อึดอัด อยู่แล้วรู้สึกว่าไม่เครียด ก็อยากอยู่ต่อครับ

12.เมื่อรู้สึกท้อหรือเบื่อหน่ายกับงานที่ทำอยู่ สิงโตมีวิธีกำจัดความรู้สึกเหล่านั้นอย่างไร

               ก็อาจจะห่างงานนั้นไปสักพัก และมองย้อนกลับมาดูว่าสิ่งที่เรามี งานที่เราทำมันดีแค่ไหน บางทีเราอาจจะอยู่ใกล้เกินไป คนเราพออยู่ใก้กับสิ่งที่ตัวเองทำมากเกินไปก็ไม่เห็นค่า พอห่างไปสักพักจะรู้ว่าที่เรามีทุกวันนี้ ที่ได้ทำทุกวันนี้มันสุดยอดละ แทนที่จะคิดไปหาทำสิ่งใหม่หรือเบื่อกับงานตัวเองก็ลองปรับทัศนคติวิธีคิดดู แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็หางานใหม่เลย เลือกที่เราชอบ ที่เราทำแล้วมีความสุข มันจะอยู่ได้นาน

13.คิดว่าจะยุติบทบาทการเป็นศิลปินนักร้องตอนอายุเท่าไหร่

               ไม่น่าจะยุติได้นะครับ (หัวเราะ) เพราะไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอาชีพ อย่างที่บอกว่า ให้ไปหาอะไรที่ตัวเองชอบทำ พอหาอะไรที่เราชอบทำได้ เราก็จะไม่ได้นั่งรอวันที่ราได้หยุดทำมัน เราจะไม่รู้เลยว่าจะต้องวันเสาร์ ผมไม่มีวันเสาร์ วันอาทิตย์อะไรเลย

14.“สิ่งของนำโชค” ของสิงโตที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลาคืออะไร

              ผมว่าน่าจะเป็นทัศนคติ ที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เราก็จะต้องเลือกคิดไปในทางบวกให้ได้ สมมติมีอะไรที่มันแย่ ลองหาข้อดีให้กับมันสัก 1 อย่าง ฝึกทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวัน ถ้าเราคิดดี ทัศนคติดี โชคดีก็มาเอง

15.เคยได้ยินใครวิจารณ์สิงโตว่า “เป็นคนเยอะ” บ้างไหม ถ้าเคย-สิงโตรู้สึกอย่างไร และจริงๆ แล้วสิงโตเป็นคนอย่างไร

               ก็เยอะนะ ผมเป็นคนเยอะ ทำอะไรเยอะๆ หลายอย่าง มีลูกก็เยอะ (หัวเราะ) กินก็เยอะ  

16.ในฐานะคนอิสาน สิงโตคิดอย่างอย่างไรเวลาคนอื่นๆ พูดถึงคนอิสานในด้านลบ

               เมื่อก่อนรู้สึกบ้างนิดหน่อย แต่จริงๆ มันอยู่ที่คนมอง คนจะพูดอะไรก็ได้ แต่คนที่จะรับมาคือเรา ถ้าเรารับมาแล้วรู้สึกไม่ดี ก็ไม่รู้จะรับมาทำไม คนพูด พูดไปก็จบ ก็ปล่อยเขาพูดไป

17.ปัจจุบันนิตยสารบนแผงเหลือไม่มากแล้ว ถ้าสิงโตต้องถ่ายแฟชั่นแนวเซ็กซี่จริงๆ สิงโตจะเลือกถ่ายลงนิตยสารเล่มไหน

               คิดว่านิตยสารแนวหวิวไม่น่าเหมาะนะครับ (หัวเราะ) จะดูเยอะไป  ถ้าต้องมาโชว์อะไร ไม่น่าไหว คิดว่าไม่ดีกว่ามั้งครับ (หัวเราะ)

18.“3 ข่าว” ที่สะเทือนขวัญสิงโตมากที่สุดตอนนี้คือ?

               ข่าวมันมีมาตลอด เรื่อยๆ เราก็ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น ให้เรารู้สึกว่าไม่เป็นทุกข์กับเราน้อยมากที่สุด

19.เคยคิดหรือไม่ว่า ถ้าสิงโตโด่งดังมีชื่อเสียงตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ชีวิตตัวเองทุกวันนี้จะเป็นอย่างไร

               ถ้าผมโด่งดังตั้งแต่วัยรุ่น ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันนะ แต่ผมคงจะตั้งใจทำงานมาเรื่อยๆ จริงๆ แล้ววงการบันเทิงจะค่อยๆ สอนเราไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ว่าเราควรอยู่แบบไหน ทำตัวแบบไหนให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด คือเราพยายามยืนอยู่ในจุดของตัวเองอย่างสบายใจที่สุด ไม่ต้องไปฝืน ไม่ต้องไปกดดัน ไม่ต้องไปคิดอะไรเยอะ เพราะสิ่งรอบตัวเราจะสอนเรา

20.ในอนาคตข้างหน้า สิงโตอยากทำอะไรอีกบ้างที่ไม่เกี่ยวกับวงการ

               คงได้เห็นผมอยู่ในวงการแน่ๆ อยู่แล้ว (หัวเราะ) ไม่น่าจะไปไหนนะ คิดว่าคงอยู่ในวงการนี่แหละ ส่วนอย่างอื่นต้องคอยดูอีกทีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมยังไม่บอก

               ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ ของสิงโต นำโชคได้ที่ : www.facebook.com/whattheduckmusic และ www.facebook.com/singtonumchok

Facebook Comments Box