Site icon Spotlight Daily

ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ กับนิยามของภาพถ่ายสตรีท

เรื่อง: วิชญ์พล พลพิทักษ์ชัย

                หากใครที่คลุกคลีอยู่กับการถ่ายภาพสักหน่อย ไม่ต้องถึงขั้นเป็นช่างภาพ คงต้องคุ้นเคยกับคำว่าภาพถ่ายแนว ‘สตรีท’ อย่างแน่นอน ภาพที่เคยเห็นส่วนใหญ่มักแฝงไปด้วยอารมณ์ขันและความคิดสร้างสรรค์อันไม่ธรรมดา แถมการถ่ายภาพแนวนี้ได้ผสานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายภาพประเภทอื่นๆ ทั้งแต่ การถ่ายพอร์ตเทรต แฟชัน ภาพข่าว ไปจนถึงพรีเว็ดดิ้ง เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ถ่ายภาพที่กำลังมาแรงแบบสุดๆ

                แม้จะเป็นเทรนด์ที่มาแรง จนทำให้ใครหลายคนมีกล้องพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะอยากจะได้ภาพสตรีทฝีมือตัวเองบ้าง หากแต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่า การถ่ายภาพสตรีทที่แท้จริงเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ใช่แค่การถือกล้องออกไปถ่ายอะไรก็ได้ตามท้องถนนแน่ๆ ยังมีเบื้องหลังและเทคนิคที่กว่าจะได้ภาพสตรีทดีๆ อีกมากมายเลยทีเดียว 

                นาทีนี้คงไม่มีใครจะให้คำตอบดีไปกว่า ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ช่างภาพสตรีทอันดับต้นๆ ของไทยและของโลก 1 ใน 20 ช่างภาพสตรีทที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปี 2015 จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ Streethunter.net รวมไปถึงการคว้ารางวัลการประกวดระดับโลกมาอีกนับไม่ถ้วน และล่าสุดกับการเป็นหนึ่งในสมาชิกของ iN-PUBLiC กลุ่มช่างภาพสตรีทที่มีอิทธิพลต่อการถ่ายภาพสตรีททั่วโลก ที่จะมาให้นิยามของการถ่ายภาพสตรีทที่หลายคนอาจยังไม่รู้

มองกระแสการถ่ายภาพสตรีททุกวันนี้เป็นอย่างไร

                การถ่ายสตรีทเมื่อตอนสี่ปีที่แล้วโคตรอินดี้เลยนะ น้อยคนที่จะเข้าใจว่ามันคืออะไร เป็นกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่สนใจ เป็นการถ่ายภาพอีกประเภทหนึ่งที่คนไทยเพิ่งมาเก็ตไม่นาน เพราะมันสนุกที่ทุกคนสามารถพกกล้องออกไปถ่ายได้ทุกวัน เมื่อก่อนจำได้เลยว่า ซื้อกล้องมาต้องรอไปทริป ไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศเท่านั้น แต่นี่คุณออกไปทำงาน แค่พกกล้องไปด้วย พยายามสังเกตสิ่งรอบตัว แล้วพยายาม ทวิสต์มันออกมาเป็นภาพที่สร้างสรรค์ ตอนนี้เลยกลายเป็นเทรนด์ที่ป๊อปมาก แต่เราเชื่อว่าทุกอย่างมีขึ้นต้องมีลง ถ้าทุกคนช่วยกัน ไม่ถ่ายลอกเลียนหรือไปถ่ายที่เดียวกันเยอะๆ พยายามฉีกแนว ไม่ถ่ายอะไรที่คล้ายกัน ก็น่าจะช่วยพยุงกราฟเส้นสูงสุดของการถ่ายภาพแนวสตรีทไปได้อีกนาน

สิ่งที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการถ่ายสตรีทคืออะไร

               คนส่วนมากจะเข้าใจว่าคือการยกกล้องขึ้นมาแล้วถ่ายอะไรก็ได้บนถนน โดยไม่จัดฉากก็ถือว่าเป็นสตรีทแล้ว พูดง่ายๆ หลักๆ เลยคือเฟรมมิ่งไม่ได้ ไม่มีเรื่องราวที่จะเล่า ไม่มีการบิดมุมมองเพื่อพยายามสร้างสรรค์บางอย่าง เป็นภาพที่ธรรมดาเกินไป ไม่ผ่านกระบวนการคิด สำหรับเรามองว่า สตรีทไม่จำเป็นต้องเล่นมุขหรือแก็กก็ได้นะ แต่ขอให้มีกระบวนการวางเฟรมมิ่งที่สวยงามประณีต มีการใช้แสงเงา คือให้ภาพดูดีกว่าภาพธรรมดาทั่วไปที่ยกกล้องขึ้นมาแล้วถ่ายเลย แสดงให้เห็นว่าผ่านกระบวนการคิดมาแล้ว ก็ถือว่าเป็นภาพถ่ายสตรีทที่ดีได้ 

นิยามของการถ่ายภาพสตรีทจริงๆ แล้วต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

              อธิบายง่ายๆ คือ หนึ่ง ห้ามจัดฉาก สอง ถ่ายในที่สาธารณะ สาม มีความคิดสร้างสรรค์ เราพูดทุกครั้งว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องมีแก๊กตลกอย่างเดียว จะเป็นความคิดสร้างสรรค์ในแง่องค์ประกอบภาพหรือแสงเงาก็ได้ แต่คนไทยเข้าใจว่าต้องเป็นแก๊ก อาจจะเพราะว่าประเทศเราเป็นประเทศที่ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพสตรีทแนวแสงสวย คือแสงได้นะ แต่คนไทยกลัวแดด เจอแดดก็เอาผ้าบัง วิ่งหนี ถ้ามีอีเวนต์กลางแจ้งก็มีเต้นท์ คือคนจะไม่ชอบทำกิจกรรมกลางแดดเหมือนเมืองนอก ที่พอมีแดดปุ๊บก็ออกไปอาบแดด ปิคนิค ภาพจึงไม่ได้เป็นแนวนั้น วิธีหนีตายของช่างภาพสตรีทไทยคือ มองอย่างอื่นเป็นแนวแก๊กแนวขำขันแทน ซึ่งจริงๆ การถ่ายแนวแสงสีสวยงามก็สามารถทำได้ แต่จะยากหน่อย การไปรอตรงที่แสงสวยๆ แล้วกว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจก็ต้องใช้เวลา อย่างเราไปถ่ายรูปหนึ่งที่เป็นเงาเสาไฟฟ้าพาดไปบนตึก ก็รออยู่สองวันกว่าจะได้ภาพนั้นมา

แสดงว่าการรอจังหวะก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการได้ภาพที่ดี

               ใช่เลย ตอนเราถ่ายรูปใหม่ๆ นี่ตั้งใจมาก คืออยากได้ไปหมด ในช่วงฝึกฝนจะโอเคมากกับการตั้งใจทำแบบนี้ ในทางสตรีทเขาเรียก ฟิชชิ่ง (ตกปลา) คือเจอซีนหรือฉากที่น่าสนใจก็ไปดักรอถ่าย เพื่อให้ได้จังหวะที่พอดีกับภาพในหัว แรกๆ ช่างภาพสตรีททุกคนก็มักจะตกปลาทุกขนาดนะ ปลาเล็กปลาใหญ่เอาหมด แต่พอผ่านไปสักสองสามปี เชื่อว่าทุกคนอยากจะได้ปลาใหญ่ คือเป็นภาพที่ควรค่ากับการรอ ความตลกก็คือหลายๆ ครั้ง ถ้าอยากได้มากๆ มันมักจะไม่ได้

                ช่างภาพ Magnum ชื่อ อ็องรี การ์ตีเย-แบรซง ที่เป็นพระบิดาของวงการช่างภาพสตรีท เคยบอกว่า การที่คุณออกไปถ่ายรูป แล้วอยากได้อะไรก็จะไม่ได้ สิ่งที่คุณทำได้คือมี interact กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เพราะภาพที่ดีมันไม่ได้เกิดจากการวางแผนไว้เสียทั้งหมด เราค้นพบว่าเป็นสิ่งที่จริงมาก คือถ้าเรารู้ว่าซีนแบบนี้จะเกิดแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นยังไง จะเป็นภาพที่น่าเบื่อนิดหน่อย เพราะเป็นสิ่งที่เราเคยเห็นมาแล้ว

ช่วงหลังจะเห็นภาพสตรีทที่ออกมาแนวซ้ำๆ กัน คิดว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร

               เรื่องมุมมองสำคัญมาก ถ้าคุณไม่ตรวจตราความคิดของตัวเองให้ดี มันจะกลายเป็นซ้ำกับคนอื่นไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดูภาพคนอื่นมาเยอะด้วย ก่อนจะถ่ายต้องนึกละว่าภาพแบบนี้เราเคยเห็นมาก่อนหรือเปล่า แก๊กนี้มีคนเคยถ่ายไหม หรือซ้ำกับเขาไปไหม จริงๆ แล้วถ้าถ่ายเพื่อฝึกฝนมุมมองหรือเอาสนุกก็โอเค แต่ถ้า อยากมีพอร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ เห็นภาพแล้วรู้ว่าใครเป็นคนถ่าย ก็ต้องพยายามไม่ไปลอกเลียนสไตล์หรือมุกที่เค้าทำมาเยอะๆแล้ว สังเกตมุกหนึ่งที่เห็นบ่อยมากในปีนี้ คือหน้าคนตามท่อน้ำ คือแทบจะมีส่งมาในกรุ๊ป Street Photo Thailand อยู่ทุกวัน ซึ่งถ้าจะทำให้เป็นพอร์ตที่แข็งแรงก็ต้องฆ่าภาพพวกนี้ทิ้ง

มองว่าอุปกรณ์สำคัญมากน้อยขนาดไหนในการได้ภาพ

              การเลือกอุปกรณ์ควรจะดูว่าชีวิตประจำวันเราเป็นแบบไหน ถ้าไม่ได้ไปผจญภัยบ่อยๆ เรารู้สึกว่ากล้อง DSLR ใหญ่ๆ ไม่ตอบโจทย์คนยุคนี้ ควรจะเป็นอะไรก็ได้ที่เล็กและคุณภาพดี พกได้ทุกวัน ไม่มีประโยชน์ที่จะซื้อกล้องใหญ่ทนทานแต่ไม่มีโอกาสได้ใช้ สู้เลือกกล้องที่สามารถพกได้ในชีวิตประจำวันดีกว่า หรือมือถือคุณภาพดีๆ ที่ถ่ายไฟล์ Raw ได้ก็ควรพกไว้ เราเชื่อว่าทุกคนสามารถที่จะถ่ายภาพดีๆ จนเป็นงานระดับมาสเตอร์พีชและสามารถภูมิใจกับมันได้เลย เพียงแต่ว่าคุณต้องพกกล้องไว้ตลอดเวลา เพราะเหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์อาจเกิดต่อหน้าคุณเมื่อไรก็ได้ ซึ่งถ้าไม่พกกล้องไว้ก็ถือว่าพลาดแน่นอน

คนส่วนมากมักเริ่มท้อใจหลังจากที่พยายามแล้วไม่ได้ภาพดีๆ อยากแนะนำว่าอย่างไร

             ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขาจะทำว่าตั้งใจแรงกล้าหรือเปล่า สามปีก่อนพี่ที่ก่อตั้งกลุ่ม Street Photo Thailand เขาชวนเล่น กิจกรรม 365 days in 2014 โดยให้โพสต์ภาพสตรีททุกวัน ตอนนั้นคือเราตั้งใจแน่วแน่มาก ว่าต้องทำให้ได้ และพอทำได้มันก็เปลี่ยนชีวิตเราเหมือนกัน  เราเชื่อในการตั้งใจทำสิ่งเล็กๆ ในแต่ละวัน แล้วพอทำสำเร็จจะทำให้รู้สึกดีกับตัวเอง จนกลายเป็นภาพใหญ่ที่ทำได้ในที่สุด

             มีน้องหลายคนถามว่ามองอะไรตอนที่ออกไปถ่าย เราก็ตอบว่ามองทุกความเป็นไปได้ที่จะได้ภาพ แล้วก็ทำให้ดีที่สุดในทุกๆ ซีน เราเชื่อในการไม่ทิ้งโอกาส เคยมีคนบอกไว้ว่า ถ้าคุณไม่ได้ลองที่จะถ่ายมัน คุณจะพลาดแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคุณได้ลองก็อาจจะมีโอกาสที่จะได้ภาพนั้นมา แม้มันจะเป็นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม

Facebook Comments Box
Exit mobile version