เรื่องที่ทุกคนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการไปเที่ยวเนปาล
สำรวจ 5 เรื่องที่ทุกคนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเดินทางท่องไปใน
“ดินแดนเหนือระดับน้ำทะเล” อันน่าประทับใจ

               นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างต้องการไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของประเทศเนปาล แต่ก็มีบางคนที่ยังลังเล มีเหตุผลบางประการที่ฉุดรั้ง ทำให้แผนการท่องเที่ยวเนปาลต้องพักเอาไว้ก่อนทุกครั้ง ทั้ง ๆ ที่อาจจะเป็นโอกาสพิเศษสุดในชีวิต ทราเวลโลก้าขอนำเสนอไฮไล9Nจากทริปไปเนปาลหรือสวรรค์แห่งหิมาลัยที่อาจช่วยคลายความกังวลของหลาย ๆ คนให้ไม่ต้องคิดมาก เมื่อพร้อมแล้วก็จองตั๋วเครื่องบินไปเนปาลกับ Traveloka ที่นี่ แล้วเตรียมไปสนุกกับเราได้เลย  

#1. เนปาลอันตรายเกินไปสำหรับการเดินป่า

  • คุณไม่ได้จะไปปีนภูเขาเอเวอร์เรสต์สักหน่อย นักเดินทางบางกลุ่มเท่านั้นที่ไปเดินป่าหรือไป ปีนเขาในเนปาล เส้นทางที่คนชอบไปกันคือ เอเวอร์เรสต์เบสแคมป์ทางตะวันออกของเนปาล ส่วนเส้นจอมสอม (Jomsom Trek) ที่อยู่ทางตะวันออกเหมือนกันก็มีชื่อเสียง แต่ไม่ใช่ในแง่เส้นทางไต่เขา จะเป็น “เส้นทางโรงน้ำชา” มากกว่า เพราะท่องไปก็มีโรงน้ำชาให้แวะดื่มเป็นพัก ๆ
  • การเดินทางจากโภคราไปจอมสอม โดยใช้เส้นทางจอมสอม จะกินเวลา 4-5 วันสำหรับการ “เดินป่า” ที่ค่อนข้างสบายเมื่อเทียบกับการเทร็กกิ้ง เทียบได้กับการไปดอยเชียงดาวในระยะทางที่ไกลกว่า จะไม่เหนื่อยมาก พักผ่อนได้เรื่อย ๆ ตามหมู่บ้าน รับประทานอาหารโฮมเมดอร่อย ๆ และพักกลางทางกับนักเดินทางคนอื่นได้ ซึ่งจะมีเกสต์เฮ้าส์ให้เลือกมากมาย
  • ผู้เขียนซึ่งเดินทางคนเดียว ได้เจอกับนักเดินทางคู่หนึ่งระหว่างการเดินเขาใกล้กับโกเรปานี (Ghorapani) ที่อยู่ห่างจากโภคราไป 3 วัน พวกเขาจ้างไกด์ช่วยบริการระหว่างการเดินป่า ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจไม่จำเป็นด้วยซ้ำ นักเดินทางทั่วไปก็สามารถเพลิดเพลินกับเส้นทางนี้ได้อย่างสบาย

#2. เนปาลอันตรายเกินไป เนื่องจากยังมีเหตุการณ์ไม่สงบจากกลุ่มกบฎนิยมลัทธิเหมา

  • ความไม่สงบนั้นสิ้นสุดแล้วตั้งแต่ปี 2549 เหตุการณ์ความไม่สงบนี้เป็นโศกนาฏกรรมที่คร่าชีวิตคนไปนับพันในช่วงที่มีความขัดแย้งกันนับสิบปีระหว่างปีพ.ศ. 2539-2549 ซึ่งปัจจุบันส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในเมืองและชนบทเพียงเล็กน้อย
  • หากนักเดินป่าประสบกับกองกำลังกบฏ อาจจะไม่พบกับอาวุธหรือความรุนแรง แต่อาจมีการเรียกร้องเงินสนับสนุนกองกำลังเพียงเท่านั้น โดยทั่วไปมูลค่าประมาณ 300 บาท และจะมีใบเสร็จให้ด้วย โปรดทราบด้วยว่า มีการเซ็นสัญญาตกลงสันติภาพกันแล้ว สงครามสงบแล้วนับแต่เมื่อ 13 ปีก่อน (ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่ไอโฟน รุ่นหนึ่งจะออกมาด้วยซ้ำ)

#3. เนปาลเสี่ยงเกินไปสำหรับผู้หญิง

  • ผู้หญิงทุกช่วงวัย ไม่ว่าเชื้อชาติหรือสัญชาติใด ได้รับการต้อนรับและปฏิบัติด้วยดีที่เนปาล รวมทั้งผู้หญิงที่เดินทางท่องเที่ยวคนเดียว
  • คนเนปาลโดยทั่วไปพูดจาเบา ๆ สุภาพ ถ่อมตน และยินดีต้อนรับความแตกต่าง ไม่ว่าคุณจะมีความเชื่อแบบใด หรือมาจากประเทศใด พวกเขาปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเท่าเทียมโดยปราศจากอคติหรือการดูถูกเหยียดหยาม
  • นักท่องเที่ยวที่เข้าไปยังเนปาลได้รับการต้อนรับในฐานะผู้มาเยือน ไม่ว่าจะในบ้าน หมู่บ้าน เส้นทางที่ผ่านช่องเขาต่าง ๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน หรือแม้แต่ในตอนดึก ๆ ในเมืองใหญ่ที่มีคนอยู่อาศัยคับคั่ง

#4. เนปาลสกปรกเกินไปและไม่ถูกสุขอนามัย

  • เนปาลเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาเมื่อวัดจากจีดีพีต่อประชากร โดยถือเป็นหนึ่งในประเทศยากจนที่สุดในเอเชียใต้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศมีการพัฒนาไปมาก ซึ่งช่วยให้คนได้หลุดพ้นจากความยากจนลงไปได้บ้าง
  • น้ำสะอาดบรรจุขวดนั้นหาซื้อได้ในทุกที่ ภาชนะใส่อาหาร ตู้เย็น และมาตรฐานการจัดเตรียมอาหารก็ดีขึ้นมากกว่าในอดีต
  • สาธารณูปโภคด้านสุขภาพที่ดีก็มีมากขึ้นและกระจายตัวไปยังพื้นที่ต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว อาการเจ็บป่วยที่พบได้มากสุดในเนปาล จะเป็นกลุ่มนักเดินทางผจญภัยที่ปีนเขาสูงเกินไปหรือเร็วเกินไปกว่าที่ร่างกายจะรับได้
  • สำหรับผู้ที่เดินทางมาเนปาลเป็นครั้งแรก สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือ “การปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ” ซึ่งเป็นกระบวนการที่ร่างกายปรับตัวอย่างช้า ๆ และลดการไหลเวียนของออกซิเจนไปยังสมองเมื่อขึ้นไปอยู่ในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล จึงอาจเกิดอาการ Acute Mountain Sickness (AMS) ได้ เมื่ออยู่บนพื้นที่สูงกว่า 2,500 เมตร
  • ร่างกายของคุณจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับอากาศได้ แต่นักท่องเที่ยวหรือนักท่องป่าบางคนก็ไม่เข้าใจว่ากระบวนการต้องค่อยเป็นค่อยไปจึงจะดีที่สุด อาการ AMS นั้น ไม่เกี่ยวกับความสะอาด สุขอนามัย หรือโรคที่มาจากภาคพื้นดินหรือทางทะเล น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการเดินทางให้ได้ระยะที่ไกลเกินไป หรือเดินเร็วเกินไป การเดินทางให้ช้าลงและคำนึงถึงถึงเรื่องสุขภาพไว้ก่อน น่าจะดีกว่า ถ้าต้องการปีนขึ้นไปให้สูงระดับนั้น
  • ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในเนปาล ผู้เขียนของทราเวลโลก้าไม่เคยพบนักเดินทางที่ป่วยหรือมีอาการเกี่ยวกับ AMS ผู้เขียนใช้เวลาชื่นชมบรรยากาศอันงดงามของเนปาล วิวทิวทัศน์ต่าง ๆ ผ่านการเดินทางแบบช้า ๆ สบาย ๆ ไปตาม “เส้นทางโรงน้ำชา” ซึ่งคุณก็ทำได้เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งแต่อย่างใด 

#5 เนปาลไม่ใช่สวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง

  • เนปาลไม่ใช่แหล่งสำหรับคนที่ชอบการช้อป คนที่สนใจซื้อรถหรู หรือ เสื้อผ้า น้ำหอม กระเป๋า แบรนด์เนมที่ทันสมัย คงมองข้ามประเทศเกษตรกรรมแห่งนี้ไป สำหรับคนที่ใช้จ่ายเงินแสนเหรียญสหรัฐฯ ในเนปาลก็คงไม่ใช่เพื่อช้อปปิ้ง แต่อาจจะเป็นการจ่ายเพื่อเดินทางขึ้นไปยังเขาเอเวอร์เรสต์กันมากกว่า ค่าใช้จ่ายก็ประมาณนี้ล่ะ
  • แต่สุดท้าย เนปาลก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งได้ นี่หมายถึงคนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาว่าต้องใช้อะไรบ้าง ที่นี่ก็มีของใช้จำเป็นให้ซื้อครบ
  • ตัวเลือกการช้อปปิงสุดฮิต ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือแก็ดเจ็ตต่าง ๆ แต่เป็นสินค้าจากอุตสาหกรรมพื้นบ้านที่แสดงให้เห็นถึงงานฝีมือ ที่สวยงาม ทนทาน และประณีต ที่สำคัญคือ ราคาถูกด้วย
  • พัชมีนา (Pashimina) ดี ๆ ที่ใช้เป็นผ้าคลุมไหล่และผ้าพันคอในเอเชียนั้น สร้างสรรค์โดยดีไซน์เนอร์นับร้อยในเนปาล เนื้อผ้าทอแน่น หลากสีสดใส นอกจากนี้ ยังมีตุ๊กตาและหน้ากากที่ทำจากกระดาษ เครื่องประดับจากหินและลูกปัด ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว อีกทั้งกาแฟ ชา และเครื่องเทศที่ผลิตในท้องถิ่น ที่หารับประทานได้ตามร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ ก็เป็นสินค้าส่งออกเลื่องชื่อของประเทศ ดังนั้น การที่นักเดินทางบางคนบอกว่าจะไป “ช้อป” ที่เนปาล ก็น่าจะเลือกสินค้าเหล่านี้ อีกหลายคนก็ได้เลือกเป็นของฝากอันเลอค่าที่น่าประทับใจกลับไป

 

            ธีร์ ฉายากุล Country Manager ทราเวลโลก้า ประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับคนที่มาเที่ยวในเอเชีย เราแนะนำทริปสำรวจค้นหาความงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจทุกอย่างที่มีในเนปาล ซึ่งเดินทางเข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ที่มีสุขภาพแข็งแรง ในทุกช่วงอายุ ซึ่งแน่นอนว่าคุณไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าไปใกล้ ๆ เทือกเขาหิมาลัยเพื่อชมความใหญ่โตและอลังการ ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกมาก และมีเจ้าบ้านชาวเนปาลที่ยินดีต้อนรับ มีมรดกทางวัฒนธรรมที่เข้มข้น รวมทั้งศาสนาและอาหารการกินที่น่าค้นหา ทรงคุณค่าแก่การไปเยือนเนปาล ซึ่งน้อยคนที่จะไปเยือนเพียงครั้งเดียว เพราะมีหลายเหตุผลทีเดียวที่ทำให้ต้องไปเยือนซ้ำ”

            “เนปาลเป็นจุดหมายหนึ่งที่อาจไม่ได้อยู่ในวิสัยของนักท่องเที่ยวไทยเท่าไรนัก แม้ว่าจะอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง 20 นาทีก็ถึงแล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่ที่คนยังไปสำรวจไม่มาก น่าค้นหา ที่สำคัญคือ การเดินทางไปยังจุดหมายใหม่ ๆ โดยไม่ต้องคาดหวังอะไรนัก อาจได้มาซึ่งความประทับใจ เชื่อว่าคนไทยจะชอบหากได้เดินทางไปค้นพบความอบอุ่นและความเป็นมิตรของชาวเนปาล นอกเหนือจากความน่าประทับใจของวัดหรือปูชนียสถานต่าง ๆ อาหารการกิน และที่แน่นอนคือ ความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจของธรรมชาติที่นั่น” นายธีร์กล่าว

Facebook Comments Box