เรื่อง : อูน
“ครอบครัวหมายเลข 1” ของสหรัฐอเมริกามีขนาดใหญ่และมีสมาชิกมากกว่าปกติ ทุกหนทุกแห่ง-ไม่ว่าใครคนไหนในตระกูลทรัมป์จะไป จะต้องมีทีมรักษาความปลอดภัย ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล มากเสียจน “คนวงใน” พูดถึงฝันร้ายของระบบขนส่งและรักษาความปลอดภัย
ไม่นานมานี้เองที่โดนัลด์ ทรัมป์เคยเหน็บแนมบารัก โอบามาว่าเป็น “นักกอล์ฟวันหยุด” พร้อมทั้งคุยว่า หากเขาได้เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีในทำเนียบขาวเมื่อไหร่ เขาจะทำงานให้หนักกว่า และไม่คิดจะเดินทางไปไหน ตอนนี้ทรัมป์เพิ่งรับตำแหน่งได้เพียงเดือนเศษ แต่ใช้โอกาสเดินทางในวันสุดสัปดาห์ไปยังกอล์ฟคลับ “มาร์-อา-ลาโก” ที่ฟลอริด้าแล้วถึง 3 ครั้ง
แต่นั่นไม่ได้เป็นการเดินทางเพื่อพักผ่อนตากอากาศ สเตฟานี กริชแฮม-โฆษกของวอชิงตัน โพสต์ยืนยัน ทรัมป์ทำงานตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในวอชิงตัน “ท่านประธานาธิบดีทำงานทุกวันตลอดสัปดาห์ ไม่เคยหยุด ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม” และแม้ว่าเมื่อตอนสายของวันอาทิตยเขาจะเล่นกอล์ฟอยู่ท่ามกลางแดดอุ่นของฟลอริด้าก็ตาม
ไปฟลอริด้า 3 ครั้ง เป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 10 ล้านดอลลาร์ และนั่นไม่ใช่ทั้งหมด “ครอบครัวหมายเลข 1” ของสหรัฐอเมริกานั้นมีขนาดใหญ่และจำนวนสมาชิกมากกว่าปกติ นอกจากนั้นไลฟ์สไตล์ของพวกเขายังหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ ตามสไตล์ครอบครัวมหาเศรษฐี ไหนจะเพนต์เฮาส์ ในอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ที่ซึ่งเป็นบ้านของสตรีหมายเลข 1-เมลาเนีย และบาร์รอน-ลูกชาย ที่ยังต้องพักอาศัยอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดปีการศึกษา ไหนจะบ้านหลังใหญ่ในวอชิงตัน ที่ลูกสาว-อีวานกา และสามี-จาร์เรด คุชเนอร์ พร้อมทั้งลูกๆ อีกสามคน ย้ายเข้าไปพำนัก เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี ไหนจะบ้านของครอบครัวโดนัลด์ จูเนียร์ และอีริก รวมถึงทริปธุรกิจของลูกชายประธานาธิบดีทั้งสองคนนี้ ที่เข้ามาสานต่ออาณาจักรการค้าแทนทรัมป์ผู้เป็นพ่อ
พวกเขาทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับความคุ้มครอง และไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ซึ่งนั่นหมายความว่า การดำเนินชีวิตของตระกูลทรัมป์เป็นภาระของชาวอเมริกันผู้เสียภาษีทุกคน วอชิงตัน โพสต์รายงานถึงงบจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สำหรับการนี้ตลอดระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 4 ปี
วอชิงตัน โพสต์ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ได้ประสานงานกับเทศบาลนครนิวยอร์กให้จ่ายเงินราว 500,000 ดอลลาร์ต่อวัน เพื่อรักษาความปลอดภัยอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ และให้สำนักงานเขตปาล์ม บีชจ่ายเงินราว 10,000 ดอลลาร์ต่อวัน เพื่อรักษาความปลอดภัย “มาร์-อา-ลาโก” ระหว่างที่ทรัมป์พำนักอยู่ เงินจำนวนมากมายนั้นเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับทีมรักษาความปลอดภัยและการขนส่งจราจร
เมื่อไม่นานมานี้ หนังสือพิมพ์เคยรายงานข่าวว่า ทริปธุรกิจสั้นๆ ของอีริก ทรัมป์ไปยังอุรุกวัย มียอดค่าใช้จ่ายค่าห้องพักโรงแรมสำหรับทีมรักษาความปลอดภัยจากหน่วยงาน Secret Service และค่าเลี้ยงดูพนักงานทูตจำนวน 100,000 ดอลลาร์ เหตุผลของการเดินทางไปยังสถานที่ตากอากาศหรูริมทะเลก็เพื่อเจรจาการลงทุนก่อสร้างอาคารทรัมป์สูงระฟ้านั่นเอง นักการเมืองพรรครีพับลิกันบางคนที่เคยโวยวายเรื่องการเดินทางไปพักผ่อนของโอบามา พอรับรู้ข่าวนี้กลับพากันเงียบสนิท แม้ว่าตอนช่วงหาเสียงประธานาธิบดีคนนี้เคยเสนอตัวเองเป็น “แชมป์ประหยัดงบประมาณ” ต่อต้านการผลาญเงินภาษี ลดอัตราการว่างงาน ฯลฯ
อย่างไรก็ดี หน่วยงาน Secret Service แม้จะอยู่ภายใต้อำนาจของประธานาธิบดี แต่หน่วยงานนี้ก็ต้องทำงานท่ามกลางความกดดัน พวกเขาต้องจัดสรรความรับผิดชอบอย่างทั่วถึง ทั้งในวอชิงตัน นิวยอร์ก ฟลอริด้า ไหนจะทริปทางไกลอีก “มันคือฝันร้ายของระบบการขนส่งและรักษาความปลอดภัย” โจนาธาน แว็กโรว์ อดีตเจ้าพนักงานสังกัด Secret Service บอกกล่าว
ส่วนนักวิจารณ์มองเรื่องการเดินทางเพื่อธุรกิจส่วนตัวของลูกชายทรัมป์เป็นเสมือนหนามทิ่มตา เพราะท้ายที่สุดมันคือเงินภาษีของประชาชนที่ถูกเบียดเบียน ขณะเดียวกันตระกูลทรัมป์ยิ่งร่ำรวยมากขึ้น และโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเป็นเจ้าของกิจการ เพียงแต่มอบหมายให้บรรดาลูกๆ บริหารจัดการเท่านั้น นิตยสาราแนวลิเบอรัล ‘The Atlantic’ เคยวิจารณ์พร้อมข้อมูลหลักฐาน แสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกามีผลประโยชน์ทับซ้อน
ล่าสุดอีริก ทรัมป์เดินทางโดยเครื่องบินพร้อมกับทีมรักษาความปลอดภัยไปยังสาธารณรัฐโดมินิกัน เพื่อเจรจาตกลงธุรกิจการก่อสร้างรีสอร์ตหรูที่นั่น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกชายทรัมป์อีกคนเดินทางไปทำธุรกิจที่ดูไบ และปลายเดือนนี้ก็จะมีทริปไปทำพิธีเปิดอาคารทรัมป์ที่แวนคูเวอร์ แคนาดา
ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์เองก็อาจจะเดินทางไปยัง “มาร์-อา-ลาโก” ในวันสุดสัปดาห์อีก แต่จะทำงานที่นั่นตลอดเวลาหรือไม่ รู้กันแต่ว่าเขาจะมีไม้กอล์ฟอยู่ใกล้ๆ มือ