ยูนิโคล่เปิดตัวคอลเล็กชั่น HANA TAJIMA FOR UNIQLO ประจำฤดูกาล Fall/Winter 2017
เสน่ห์ดั้งเดิมแห่งสตรีชาวมุสลิมผสานความทันสมัยแห่งปัจจุบัน
ยูนิโคล่ประกาศวางจำหน่ายคอลเล็กชั่น ฮานา ทาจิมา ฟอร์ ยูนิโคล่ ประจำฤดูกาล Fall/Winter 2017 (HANA TAJIMA FOR UNIQLO Fall/Winter 2017 Collection (ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน เป็นต้นไป เฉพาะร้านยูนิโคล่ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาเอ็มควอเทียร์ สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ และ ออนไลน์สโตร์ เท่านั้น คอลเล็กชั่นนี้คือผลงานสร้างสรรค์ดีไซเนอร์สาวชาวอังกฤษเชื้อสายมุสลิมอย่างฮานา ทาจิมา ได้รับการตอบรับอย่างดี นับตั้งแต่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในฤดูกาล Fall/Winter 2015 ในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับคอลเล็กชั่นล่าสุดจะวางจำหน่ายในประเทศต่างๆ 15 ประเทศ สำหรับคอลเล็กชั่น ในปีนี้เพิ่มความพิเศษด้วยดีไซน์การจับจีบและการจับทบผ้า (Drape and Tuck Designs) ที่คิดค้นและออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่ช่วยเพิ่มสัมผัสอันงามสง่าให้กับการแต่งกายของคุณผู้หญิง
ฮานา ทาจิมา เกิดและเติบโตในประเทศอังกฤษ ปัจจุบันเธออาศัยอยู่ในนิวยอร์ก ฮานา สร้างสรรค์คอลเล็กชั่นสอดคล้องกับปรัชญาของยูนิโคล่ที่จะนำเสนอคุณค่าผ่านความหมาย LifeWear เพื่อให้ผู้สวมสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเอง และสนุกกับชีวิตได้มากยิ่งขึ้น โดยเธอได้กล่าวว่า “คอลเล็กชั่นนี้โดดเด่นในเรื่องการปรับตัวให้กลมกลืนกับความหลากหลายตามบริบทเฉพาะตัวของบุคคลและวัฒนธรรม พร้อมทั้งนำเสนอความงามสง่า ความสบาย และสไตล์อันร่วมสมัย”
คอลเล็กชั่นฮานา ทาจิมา Fall/Winter 2017 นำเสนอสีสันเทรนด์ฤดูกาลนี้ที่ครอบคลุมเฉดสีต่างๆ มากมายที่ประสานกันอย่างเรียบง่าย นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยเนื้อผ้าที่ให้ความละมุนละไมต่อผิวสัมผัสมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเนื้อผ้าแบบต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงผ้าทวีดที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก ความประณีตอีกส่วนหนึ่งในคอลเลคชั่นนี้อยู่ที่การจับจีบ (Drapes) และการจับทบผ้า (Tucks) ที่ทำให้การออกแบบดูมีมิติมากยิ่งขึ้น เสื้อโค้ทยาวแบบมีเข็มขัดเป็นสไตล์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในคอลเลคชั่น นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยกระโปรง เดรส และเสื้อทูนิค ตลอดจนผลิตภัณฑ์แอริซึ่ม (AIRism) อีกหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ้าพาดไหล่ ฮิญาบ และผ้าพันศีรษะ เพื่อมอบประสบการณ์ความสบายยิ่งขึ้นให้แก้ผู้สวมใส่
คอลเล็กชั่นฮานา ทาจิมา Fall/Winter 2017 จะเริ่มวางจำหน่ายในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนเป็นต้นไป จากนั้นจึงทยอยเปิดตัวในจีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ แคนาดา รัสเซีย และออสเตรเลีย