ฟิตบิทเปิดตัวบริการระดับพรีเมียมที่มีค่าบริการ อัดแน่นด้วย ฟิตบิท โค้ช, การโค้ชทางเสียง
และคำแนะนำด้านสุขภาพอีกมากมาย จัดมาให้สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายของผู้ใช้
เพื่อผลลัพธ์ความฟิตที่ดียิ่งขึ้น

              ฟิตบิท (NYSE: FIT) ผู้นำอุปกรณ์แวร์เอเบิลชั้นนำระดับโลก ได้ฤกษ์เปิดตัวบริการระดับพรีเมียมที่มีค่าบริการในการสอนและให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกาย ออกแบบมาให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องฟิตบิทของผู้ใช้และความหนักเบาของกิจกรรม ประมวลออกมาเป็นหลักสูตรการออกกำลังกายที่ตรงความต้องการของผู้ใช้ รวมทั้งมีฟังก์ชั่นอื่นๆ รองรับการเสริมสร้างสุขภาพให้ได้ตามเป้า เครื่องมือตัวแรกของบริการพรีเมียมนี้คือ แอพพลิเคชั่น ฟิตบิท โค้ช (Fitbit Coach) ที่ปรับโฉมมาจากแอพฯ เทรนเนอร์ส่วนตัว Fitstar นำวิดีโอการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม มาใช้ร่วมกับฟังก์ชั่นการโค้ชออกกำลังกายด้วยเสียง (Audio Coaching) ที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง สปีด และความฟิต นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมแนะนำการเสริมสร้างสุขภาพ (Guided Health Programs) ที่ให้คำแนะนำอย่างเป็นขั้นตอน พร้อมด้วยเคล็ดลับสำหรับผู้ใช้แต่ละคน พร้อมสาระความรู้ และการสะสมแต้มต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม และทำให้การออกกำลังการเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม  โดยคาดว่าตลอดปี 2561 และนับจากนี้ พรีเมียมแอพพลิเคชั่นใหม่ จะมีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ มีเครื่องมือต่าง ๆ ที่ทันสมัย  อัดแน่นไปด้วยโปรแกรมออกกำลังกายที่คณะที่ปรึกษาของฟิตบิทได้คิดค้นพัฒนา เพื่อให้ฟิตบิทสามารถให้คำแนะนำด้านสุขภาพและการออกกำลัง ที่เหมาะกับแต่ละบุคคลจริงๆ

             นายจอน โอคส์ รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของฟิตบิท กล่าวว่า ”พรีเมียมแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดจากฟิตบิทนี้ ถือเป็นพัฒนาการบทใหม่ที่เราจะสร้างประสบการณ์การใช้ซอฟต์แวร์ที่ฉลาดขึ้น มีความยืดหยุ่น และสามารถปรับให้เข้ากับบุคคลได้ ช่วยให้ผู้ใช้เห็นผล และเป็นแฟนฟิตบิทไปตลอด ในอนาคตเรามีแผนที่จะเปิดแพลตฟอร์มนี้ให้คู่ค้าและพันธมิตรเข้ามาใช้ได้ด้วย เพื่อให้บริการพรีเมียมนี้ มีคอนเท้นท์และเครื่องมือใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ทำให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามได้อย่างง่ายดายและพัฒนาสุขภาพให้แข็งแรง”

             การออกกำลังกายสุดฟิต ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ แอพพลิเคชั่น Fitbit Coach ที่ปรับโฉมใหม่นี้ ได้รวมเอาคอมเท้นท์การออกกำลังกายจาก Fitstar ที่ปรับไปตามพัฒนาการและข้อมูลเครื่องฟิตบิทของผู้ใช้ โดยแนะนำวิดีโอการออกกำลังและการโค้ชด้วยเสียงตามระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกายและเป้าหมายของแต่ละคน  ซึ่งผลการวิจัยพบว่าร้อยละ 85 ของผู้ใช้ที่ออกกำลังกายตามวิดีโอ Fitstar ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น Fitbit Coach อย่างน้อย 5 เซสชั่น จะมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น

  • การออกกำลังกายด้วยบอดี้เวทที่เหมาะกับแต่ละคน (Personalized bodyweight workouts): สามารถเลือกเทรนเนอร์ที่ชอบให้นำการออกกำลังกายในวิดีโอ ที่ปรับให้เข้ากับระดับความก้าวหน้าและผลตอบรับ เทคโนโลยีของ Fitbit Coach จะอัพเดทโปรแกรมการออกกำลังกายครั้งต่อไปตามข้อมูลของคุณ ราวกับเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวของคุณแบบเรียลไทม์
  • โปรแกรมการโค้ชทางเสียงแนะนำการออกกำลังใหม่ ๆ (New Audio Coaching Session): เพิ่มความแข็งแกร่ง สปีด และความฟิต ด้วยฟังก์ชั่นแนะนำการวิ่งและเดินที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 40 คน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย ให้ฝ่าระดับความยากง่าย ในช่วงระยะต่าง ๆ และฝึกกับโค้ชหลาย ๆ แบบ พร้อมเพลิดเพลินกับสถานีเพลงต่าง ๆ เซสชั่นการออกกำลังใหม่ เช่น elliptical หรือเครื่องเดินวงรีและการยกน้ำหนัก ที่คาดว่าจะออกมาในปี 2561
  • โปรแกรมการออกกำลังแบบออนดีมานด์ (On-demand exercises): ผู้ใช้สามารถเลือกโปรแกรมการออกกำลังกายที่ชื่นชอบ หรือเลือกเซสชั่นการออกกำลังแบบบอดี้เวทตามระยะเวลา ตามระดับความยาก หรือตามรูปแบบที่ต้องการ โดยจะได้รับคำแนะนำอย่างค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้น เน้นด้านเทคนิคและวิธีการที่ถูกต้อง
  • การออกกำลังที่แนะนำ (Recommended Workouts): ได้รับข้อมูลการออกกำลังที่แนะนำจาก แอพฯ Fitbit Coach ที่อ้างอิงจากข้อมูลเครื่องฟิตบิทของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ใช้ขี่จักรยานเมื่อวานนี้ แอพฯจะแนะนำเซสชั่นการออกกำลังกายที่เน้นหน้าท้อง แขน และหน้าอก เพื่อให้ผู้ใช้ได้พักขา

             แนะนำเพื่อสร้างพฤติกรรมการมีสุขภาพดี ไม่ว่าคุณจะต้องการวิ่งให้ถึง 5 กม. เป็นครั้งแรก หรือต้องการกินอาหารเพื่อสุขภาพ แอพฯ นี้จะมีโปรแกรมและเครื่องมือสนับสนุนให้คุณไปถึงจุดหมาย โดยโปรแกรมคำแนะนำที่กินเวลาหลายสัปดาห์ จะมีทั้งคำแนะนำที่สอดคล้องกับความต้องการและให้ขั้นตอนปฏิบัติทีละขั้น สาระความรู้ ข้อมูลสุขภาพ และหลักชัยเพื่อกระตุ้นให้ก้าวไปสู่พัฒนาการที่ดีขึ้นๆ โปรแกรมชุดแรกจะเน้นใน 2 เรื่องหลักที่ผู้ใช้ฟิตบิทต่างต้องการพัฒนาให้ดีขึ้นคือ ด้านฟิตเนสและโภชนาการ พร้อมจะมีโปรแกรมฟิตเนส โภชนาการ การดูแลสุขภาพและการนอน ออกมาเพิ่มเติมในปี 2561 ด้วย

  • โปรแกรมนักวิ่งมือใหม่ (Beginner Running): โปรแกรม 6 สัปดาห์ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญสำหรับนักวิ่งมือใหม่ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสามารถวิ่งยาวา 45 นาทีได้โดยไม่หยุดพัก โปรแกรมการโค้ชใหม่ด้วยเสียง ที่ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง การออกกำลังอย่างถูกต้อง และมีไฟอยากออกกำลังเสมอ
  • โปรแกรมขจัดนิสัยติดน้ำตาล (Kick Your Sugar Habit): โปรแกรม 4 สัปดาห์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณตระหนักและลดการบริโภคน้ำตาลเพื่อสร้างสุขนิสัยในการกิน ด้วยโปรแกรมเอกสิทธิ์เฉพาะของฟิตบิทนี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจและเลี่ยงการบริโภคน้ำตาลที่ใส่อยู่ในอาหารโดยที่คุณไม่รู้ตัว และช่วยให้การบริโภคสอดคล้องกับแนวทางขององค์การอนามัยโลก โดยจะให้ข้อมูลเคล็ดลับ เป้าหมาย และผลประโยชน์ที่จะได้รับ

              ดร. เชอร์รีย์ ปาโกโต ศาสตราจารย์คณะแพทย์ศาสตร์จาก University of Massachusetts Medical School และคณะกรรมการที่ปรึกษาของฟิตบิท กล่าวว่า “โปรแกรมสุขภาพที่จะให้ผลต่อเนื่องยาวนาน จะต้องเป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเฉพาะคน ฟิตบิทนั้นมีฐานข้อมูลสุขภาพที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เราจึงสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีความหมายสำหรับคุณในการดำเนินตามแนวทางการมีสุขภาพดี ช่วยส่งเสริมคุณในยามที่ต้องการ และร่วมฉลองความสำเร็จกับคุณ เพื่อให้คุณมีแรงบันดาลใจอยู่เสมอ การเป็นโค้ชส่วนตัวเช่นนี้จะเสริมสร้างนิสัยการรักษาสุขภาพที่ดี ทำเป้าหมายด้านสุขภาพให้สำเร็จ และดูแลตัวเองต่อเนื่อง”

              ราคาและการวางจำหน่าย บริการพรีเมียมนี้ จะมาพร้อมกับแอพพลิเคชั่น Fitbit Coach เพื่อการเทรนนิ่งส่วนบุคคล สามารถใช้ได้ทั้งกับระบบแอนดรอยด์ iOS และ Windows โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณเดือนตุลาคม 2560 ด้วยราคาช่วงแนะนำที่ 7.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน หรือ 39.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี และบริการโค้ชทางเสียง (Audio Coaching)  จะใช้ได้ใน Fitbit Ionic™ ภายในปี 2561 สำหรับโปรแกรมแนะนำการสร้างเสริมสุขภาพ (Guided Health Program) จะออกมาช่วงปลายปีนี้ ดูได้จากเซคชั่น “Coach” ในแอพฯ ฟิตบิท และในวันนี้ ฟิตบิทยังได้ประกาศเปิดตัว Fitbit Ionic™, Fitbit Flyer™ และ Fitbit Aria 2™  ในบางประเทศแล้ว สำหรับประเทศไทย Fitbit Ionic™, Fitbit Flyer™และ Fitbit Aria 2™ จะเริ่มให้จำหน่ายตั้งแต่เดือน มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยสามารถดาวน์โหลดภาพนิ่งและสื่อต่างๆ ได้ที่ www.fitbit.com/press

Facebook Comments Box