ไนกี้และออฟ-ไวท์ สร้างสรรค์โปรเจคใหม่ “เดอะเท็น”
ปัดฝุ่นรองเท้าไนกี้ 10 รุ่นในตำนาน
ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกและนักออกแบบเวอร์จิล อา-เบลาะ (Virgil Abloh) ร่วมกันนำเสนอโครงการออกแบบรองเท้าใหม่ชื่อ “เดอะเท็น – The Ten” เพื่อออกแบบรองเท้า 10 รุ่น ของไนกี้ที่มีชื่อเสียงขึ้นใหม่
โดยรองเท้าทั้ง 10 รุ่นที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษในโครงการเดอะเท็นนี้เป็นรองเท้าที่ออกแบบขึ้นตามแนวคิดหลัก 2 แบบ อันได้แก่แนวคิด “REVEALING” สำหรับรองเท้าที่ออกแบบให้ดูเรียบง่ายและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยมือให้ดูมีรูปลักษณ์ที่
ดูเปิดเผย รองเท้าในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วยไนกี้แอร์จอร์แดน 1 (Air Jordan I) ไนกี้แอร์แมกซ์ 90 (Nike Air Max 90) ไนกี้แอร์เพรสโต้ (Nike Air Presto) ไนกี้แอร์เวเปอร์แมกซ์ (Nike Air VaporMax) และไนกี้เบลเซอร์มิด (Nike Blazer Mid) อีกแนวคิดหนึ่งคือแนวคิด “GHOSTING” นั้นนำเสนอหน้ารองเท้าแบบโปร่งแสงเสมือนว่าผู้เป็นเจ้าของได้เห็นทุกรายละเอียดของรองเท้า รองเท้ารุ่นนี้ยังมีลักษณะเป็นหนึ่งเดียวกันจากการใช้วัสดุที่คล้ายคลึงกันเพื่อผลิตรองเท้าทุกรุ่นในกลุ่มนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยคอนเวิร์ส ชัค เทย์เลอร์ (Converse Chuck Taylor) ไนกี้ซูมฟลายเอสพี (Nike Zoom Fly SP) ไนกี้แอร์ฟอร์ซ 1 โลว์ (Nike Air Force 1 Low) ไนกี้รีแอกไฮเปอร์ดังก์ 2017 (Nike React Hyperdunk 2017) และไนกี้แอร์แมกซ์ 97 (Nike Air Max 97)
เวอร์จิล อา-เบลาะและไนกี้ร่วมงานมายาวนานก่อนหน้าที่นักออกแบบชื่อก้องท่านนี้จะมีโอกาสมาเยือนสำนักงานใหญ่ของไนกี้เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2016 ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโครงการสร้างสรรค์ใหม่นี้ อันที่จริงชายหนุ่มผู้เคยใช้ชีวิตวัยรุ่นกับเพื่อนๆ ในเมืองร็อกฟอร์ด รัฐอิลลินอยส์นี้ เคยร่างภาพรองเท้าในฝันของพวกเขาและส่งไปรษณีย์มายังที่ทำการของไนกี้ “ตอนที่รองเท้าแอร์จอร์แดนวางจำหน่าย เรารู้สึกทึ่งมาก ไมเคิล จอร์แดนเป็นบุคคลที่เหนือกว่าใครทั้งมวล เขาเป็นเสมือนซุเปอร์แมนสำหรับผม” อา-เบลาะ นักออกแบบวัย 36 ที่ทำงานในเมืองมิลานและชิคาโก้เป็นส่วนใหญ่เล่า “ปรัชญาการออกแบบเรื่องราวเบื้องหลังของผลงานต่างๆ ที่ผมทำทั้งหมดมาจากสิ่งต่างๆ ในทศวรรษ 1990 ทั้งสิ้น”
อา-เบลาะ ซึ่งปัจจุบันเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ดีเจ ดีไซเนอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ออฟ-ไวท์ (OFF-WHITE) เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการผสมผสานกระบวนการสร้างสรรค์หลากรูปแบบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างนิยามใหม่ของแฟชั่นและ การออกแบบ อีกทั้งยังมีการผสานอารมณ์ขันและลูกเล่นแบบงานแฮนด์เมดลงไปในผลงานด้วย เขาเล่าว่าเขา “เริ่มต้นเรียนรู้วิชาออกแบบ” จากรองเท้ากีฬา ปกอัลบั้มเพลงร็อคและฮิป-ฮอป และการวาดกราฟิตี้ ต่อมา เขาจึงนำประสบการณ์เหล่านั้นมาผสมผสานกับวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
“ตอนที่ผมไปถึงสำนักงานใหญ่ของไนกี้ที่เมืองบีเวอร์ตันเป็นครั้งแรก ผมก็รู้ทันทีว่าผมอยากทำงานสักอย่างร่วมกับไนกี้ ผมไม่ได้ทำงานหนักมาตลอดเพียงเพื่อมาพูดคุยกับทีมงานของไนกี้อย่างเดียว” อา-เบลาะเล่า ในการมาเยือนสำนักงานใหญ่ของไนกี้ครั้งนั้น เขาแสดงฝีมือด้วยการสร้างสรรค์รองเท้าแอร์ฟอร์ซ 1 โลว์สีดำทริปเปิ้ลแบล็กใหม่โดยใช้เพียงมีดสำหรับงานศิลปะของเอกซ์-แอกโต้ (X-ACTO) และปากกาสี ซึ่งต่อมาพนักงานของเขาได้ใส่รองเท้ารุ่นพิเศษนี้ในงานนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องเรือนของออฟ-ไวท์ในงานดีไซน์ไมอามี่ซึ่งจัดขึ้นในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน
งานออกแบบของคุณอา-เบลาะก่อให้เกิดผลลัพธ์อันน่าอัศจรรย์ กล่าวคือ คุณแมตต์ คิลกอร์ (Matt Kilgore) นักอออกแบบของไนกี้ลงมือผลิตรองเท้าแอร์ฟอร์ซ 1 รุ่นพิเศษจำนวน 12 คู่ที่สตูดิโอออกแบบบลูริบบอนของไนกี้ด้วยตนเองโดยมีคุณอา-เบลาะร่วมให้ข้อคิดเห็น (อันที่จริง คุณแมตต์ คิลกอร์เป็นบุตรของคุณบรูซ คิลกอร์ ผู้ออกแบบรองเท้ารุ่นแอร์ฟอร์ซ 1 รุ่นแรกในปี 1982) รายละเอียดที่น่าสนใจจากแนวคิดของคุณอา-เบลาะคือการพลิกกลับให้โฟมด้านในลิ้นรองเท้าออกมาอยู่ด้านนอก การเดินด้ายปักตราสัญลักษณ์ของไนกี้สีเงินให้เห็นฝีเข็มได้ชัด และการสลักข้อความที่สื่อถึงเมืองบีเวอร์ตัน รัฐโอเรกอน เมืองที่เป็นแหล่งกำเนิดของรองเท้ารุ่นแอร์ฟอร์ซ 1
ในที่สุด ไนกี้ตระหนักถึงเรื่องราวที่น่าสนใจในการปรับเปลี่ยนรองเท้ารุ่นดังของตนด้วยกระบวนการออกแบบใหม่ รวมถึงความตั้งใจของอา-เบลาะที่ต้องการทำความฝันของเขาให้เป็นจริง และนั่นก่อให้เกิดโครงการเดอะเท็น ซึ่งไนกี้และอา-เบลาะจะร่วมกันสร้างสรรค์รองเท้าที่โด่งดังของไนกี้จำนวน 10 รุ่นขึ้นมาใหม่ ในโอกาสนี้ อา-เบลาะอธิบายว่า “สิ่งที่เรากำลังทำมันไม่ใช่การออกแบบรองเท้ากีฬา และมันเป็นมากกว่าการนำเสนอวัฒนธรรมการออกแบบใหม่ แต่มันคือการสร้างสรรค์งานศิลปะบนรองเท้ากีฬา รองเท้าทั้ง 10 รุ่นนี้เป็นรองเท้าที่ทลายขีดจำกัดทั้งด้านการออกแบบและด้านคุณสมบัติทางการกีฬา ผมคิดว่ารองเท้าเหล่านี้อยู่ในระดับเดียวกับรูปปั้นเดวิดหรือภาพโมนา ลิซ่า คุณอาจจะไม่เห็นด้วย แต่รองเท้าเหล่านี้มีสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากแฝงอยู่และนั่นคือข้อสำคัญที่สุด”