สถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศไทยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 19 ได้เริ่มซาลงบ้างแล้ว แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ ก็เริ่มมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหลายได้เริ่มออกเดินทางไปเช็กอินและพักผ่อนในช่วงวันหยุด ซึ่งหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการเดินทางในช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้นภาคเหนือตอนบนของบ้านเราอย่างแน่นอน วันนี้ Traveloka จึงขออาสาพาทุกคนออกไปสัมผัสกับลมหนาวของธรรมชาติที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบที่จะทำให้คุณสามารถสัมผัสได้ถึงการพักผ่อนด้วยการใกล้ชิดธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
การเดินทางไปยังแม่ฮ่องสอน
การเดินทางไปยังแม่ฮ่องสอนในครั้งนี้เราจะเริ่มต้นด้วยการจองตั๋วเครื่องบินผ่านทาง Traveloka ตัวช่วยด้านการท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายในราคาสบายกระเป๋า เพียงแค่คลิกเลือกสถานที่ที่ต้องการก็สามารถกดจองตั๋วเครื่องบินในขั้นตอนอันแสนง่ายได้แล้ว อีกทั้งตอนนี้ยังมีฟีเจอร์ดี ๆ อย่าง Promo Fliter หรือว่า Price Alerts ที่ทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นต่าง ๆ ของแต่ละสายการบินได้ง่าย ๆ รวมถึงตั้งแจ้งเตือนเวลามีราคาตั๋วเครื่องบินที่คุณต้องการ เรียกได้ว่าไม่ต้องเสียเวลาในการเปิดหาก็สามารถเลือกสิ่งที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ทุกการเดินทางของคุณได้อย่างสูงสุดเลยทีเดียว
จองตั๋วเครื่องบินไปแม่ฮ่องสอน ราคาสุดคุ้ม กับTraveloka > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Mae-Hong-Son.HGN
หลังจากจองตั๋วเครื่องบินกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย สิ่งต่อไปที่จำเป็นต่อการเดินทางนั่นก็คือ ยานพาหนะ หรือ รถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการเดินทาง เพราะฉะนั้นในการออกเดินทางในครั้งนี้เราจึงขอแนะนำอีกหนึ่งบริการน้องใหม่ที่จะทำให้คุณสามารถเดินทางไปยังจุดหมายที่ต้องการได้อย่างสะดวก ด้วยการเลือกจองรถยนต์พร้อมคนขับ หรือ เช่ารถขับเองได้ง่าย ๆ ภายในแอปเดียว เพียงคลิกไปที่เมนู Car Rental และเลือกวันเดินทาง พร้อมจำนวนผู้นั่งทั้งหมด หลังจากนั้นคลิกเลือกยี่ห้อรถที่คุณต้องการ และเลือกสถานที่ในการรับส่งรถล่วงหน้าก่อนการนัดหมาย 24 ชั่วโมงเพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินทางในครั้งนี้ได้อย่างสนุกสนานเลยเชียว
กดจองบริการเช่ารถขับ ได้ที่นี่ : https://www.traveloka.com/th-th/car-rental
วันที่หนึ่งของการเดินทางในแม่ฮ่องสอน
พอเดินทางมาถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอนกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เราก็ได้เวลาออกเดินทางตาม GPS เพื่อมุ่งหน้าไปท่องเที่ยวกันที่สถานที่แรกกันก่อนเลยกับ วัดพระธาตุดอยกองมู หนึ่งในวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก โดยภายในวัดแห่งนี้จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างองค์พระธาตุเจดีย์ ที่มีลักษณะเป็นเครื่องทรงแบบมอญปูนปั้น ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2403 จนทำให้เกิดเป็นรูปแบบความสวยงามของยอดปราสาทสูงซ้อนกันเป็นสามชั้น ทำให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาเพื่อกราบไหว้สักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและคนใกล้ตัว
โดยก่อนออกเดินทางไปเปิดทริปการท่องเที่ยวและเช็กอินตามจุดแลนด์มาร์กต่าง ๆ ของแม่ฮ่องสอนอย่างสนุกสนาน เราก็ขอเริ่มต้นการเดินทางดี ๆ ด้วยการไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน ซึ่งหากใครพอมีเวลาก็สามารถเดินทางมากราบไหว้ขอพร และเยี่ยมชมความสวยงามของศิลปะมอญที่นำมาผสมผสานในการออกแบบได้อย่างน่าสะดุดตาอีกด้วย
อีกทั้งภายในวัดยังมีบริเวณจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทัศนียภาพของวิวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างกว้างไกลสุดสายตา พร้อมทั้งรับลมเย็น ๆ โพสท่าถ่ายรูปกดชัตเตอร์กันอย่างรัว ๆ ได้อีกเช่นกัน
เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 06.00 – 19.00 น.
หลังจากที่เราได้กราบไหว้สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ขอพาทุกคนออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปต่อที่ น้ำตกผาเสื่อ แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอันงดงามที่ถูกรายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาอันเขียวขจีที่เรียงรายสลับซับซ้อนกันไปมา และน้ำตกที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฝูงปลาคัง ปลามุง และปลาพวงที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำปลาของน้ำตกแห่งนี้ จนทำให้บริเวณสถานที่นี้กลายเป็นแหล่งเล่นน้ำที่มีชื่อเสียง และเป็นจุดชมความสวยงามของธรรมชาติที่เราสามารถมาผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน พร้อมทั้งสูดอากาศบริสุทธิ์กันได้อย่างแท้จริง
เมื่อเดินทางมาถึงทางเข้าของน้ำตก จะเห็นได้ว่าน้ำตกลงจากภูเขาสูงราว 10 เมตร ซึ่งน้ำที่ตกลงมามีลักษณะคล้ายเสื่อ จนทำให้เป็นที่เรียกขานกันว่า “น้ำตกผาเสื่อ” โดยน้ำตกจะมีด้วยกันทั้งหมด 6 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี ทำให้เราสามารถเดินทางมาเล่นน้ำคลายร้อนได้ทุกช่วงฤดู และหากคุณมีโอกาสได้เดินทางมาถึงสถานที่แห่งนี้ก็อย่าลืมแวะถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศ และนั่งเล่นซึมซับความงดงามของป่าไม้โดยรอบ และอากาศอันเย็นสบายที่เกิดจากไอน้ำที่ตกลงมากันได้แบบชิว ๆ
เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
วันที่สองของการเดินทางในแม่ฮ่องสอน
เปิดการเดินทางเช้าวันที่สองด้วยการพาทุกคนไปใกล้ชิดกับบรรยากาศธรรมชาติยามเช้าที่ ปางอุ๋ง หนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงมีพระประสงค์ให้จัดสร้างอ่างเก็บน้ำ และส่งเสริมการปลูกป่าไม้ในแถบนี้ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่บริเวณโดยรอบให้เกิดความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรืองให้กับเหล่าชาวบ้านได้มีพื้นที่ในการสร้างรายได้ต่อไป จนทำให้บริเวณพื้นที่แห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
หลังจากเดินเข้ามาถึงบริเวณด้านในปางอุ๋งแล้วต้องบอกก่อนเลยว่าวิวที่เห็นด้านหน้านั้นสวยงามราวกับ สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะเป็นป่าไม้โดยรอบอันเขียวขจี อ่างเก็บน้ำ รวมไปถึงหมอกจาง ๆ ที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกพื้นที่ จนทำให้เราได้สัมผัสไปกับไอความเย็นที่แสนสบายและอากาศบริสุทธิ์ที่สามารถสูดได้อย่างเต็มปอด นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่บอกก่อนเลยว่าใครเดินทางมาท่องเที่ยวปางอุ๋งแห่งนี้ต้องแวะมาล่องแพชมภาพสวย ๆ โดยรอบของปางอุ๋ง และเหล่าหงส์ดำ หงส์ขาวมากมายที่ออกมาเล่นน้ำให้คุณได้มาถ่ายรูปกันได้อย่างสนุกสนาน
เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
เมื่อเดินเที่ยวเล่นชมความงดงามของบรรยากาศธรรมชาติอย่าง ปางอุ๋ง เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางเพื่อเตรียมพร้อมกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าในธีมจีน ๆ กันบ้างเพราะสถานที่ที่เราจะพาทุกคนเดินทางไปต่อกันก็คือ ลีไวน์รักไทย หรือ บ้านรักไทย แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเราวัยรุ่นทั้งหลายที่ชื่นชอบการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก เพราะบริเวณหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกตกแต่งออกมาในสไตล์ของจีนยูนนานที่มีความสวยงามในเรื่องของรูปทรงอาคารบ้านเรือน และไร่ชาขั้นบันได ที่ถูกออกแบบมาให้ได้บรรยากาศคล้ายกับอยู่เมืองจีนเลยทีเดียว
หลังจากเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูปเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาของกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ซึ่งในวันนี้เราก็ขอพาทุกคนมาดื่มด่ำกับความเป็นจีนขึ้นมาอีกนิดด้วยการนั่งจิบชา และอาหารสไตล์จีนมากมายที่เปิดให้คุณได้มาเลือกรับประทานไปพร้อมกับการนั่งชมวิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน ว่าแล้วก็ขอตัวไปสั่งอาหารมารับประทานกันก่อนเลย โดยเมนูที่ทางร้านแนะนำก็จะมี หมูหมั่นโถว ไก่ดำตุ๋นยาจีน และเมนูยำใบชาเห็ดหอมทอด ที่เค้ารับประกันเรื่องความอร่อยในแบบที่เราไม่ควรพลาด
เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น.
อิ่มท้องกันไปแล้วก็ออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่ หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า ที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่จะเปิดให้คุณได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตต่าง ๆ ของชาวบ้านกะเหรี่ยงคอยาวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งเมื่อเดินทางเข้ามาภายในหมู่บ้านแห่งนี้แล้วจะสัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายของชุมชนกะเหรี่ยงที่มีสินค้าต่าง ๆ มากมายวางเรียงรายให้พวกเราได้เข้ามาเลือกซื้อเลือกหากันได้อย่างเต็มที่
โดยเมื่อเดินเข้ามาเรื่อย ๆ แวะเวียนเลือกดูสินค้าและบรรยากาศรอบ ๆ หมู่บ้านแล้วเราก็ขอมาลองถ่ายรูปแปลกใหม่กันบ้างด้วยการสวมใส่เหล็กแบบกะเหรี่ยงที่บริเวณรอบคอทำให้ได้สีสันไปอีกแบบ เรียกได้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของความเรียบง่าย และสีสันของความบันเทิงที่หาได้ยากในปัจจุบันนั่นเอง ดังนั้นบอกตรงนี้เลยว่าหากใครเดินทางมาที่แม่ฮ่องสอนแห่งนี้แล้วละก็ไม่ควรพลาดมาสัมผัสกับชุมชนเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความน่ารักแบบนี้เลย
เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.
วันที่สามของการเดินทางในแม่ฮ่องสอน
และแล้วก็เดินทางมาถึงเช้าวันที่สามอันสดใสที่เราจะขอเริ่มต้นวันดี ๆ ด้วยการพาทุกคนมาใส่บาตรยามเช้าที่ สะพานซูตองเป้ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และความสวยงาม เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่ที่เรียงต่อกันยาวที่สุดในประเทศไทย จนทำให้เกิดเป็นภาพความสวยงามที่หาชมได้ยาก อีกทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับพระสงฆ์ที่เดินทางมาตักบาตรยามเช้า เพราะคนแถวนี้เชื่อว่า สะพานซูตองเป้แห่งนี้ เป็นที่มาของความสำเร็จ เพราะฉะนั้นหากใครที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตดี ๆ แล้วละก็ต้องเดินทางมาที่สะพานแห่งนี้เลย
หลังจากใส่บาตรยามเช้าเสร็จกันไปแล้วเราก็ขอตัวมาเดินเล่นบริเวณสะพาน เพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อยดีกว่า เพราะต้องบอกเลยว่าไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็จะเห็นเป็นวิวของท้องนาอันเขียวขจี รายล้อมอยู่โดยรอบ ทำให้เราได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่ร่มเย็น และทัศนียภาพที่สมบูรณ์นั่นเอง
เวลาเปิดทำการ : ทุกวัน 24 ชั่วโมง
แวะเที่ยวเล่นใส่บาตรเสริมบุญกันไปแต่เช้าแล้วก็ได้เวลาของมื้ออาหารที่แนะนำเลยว่า หากใครมาท่องเที่ยวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแห่งนี้แล้วละก็ต้องไม่พลาดเลยกับการเดินทางมาที่ บ้านจ่าโบ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บนยอดเขาที่แวดล้อมไปด้วยวิวของทิวเขาที่สวยงามนอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดอย่างก๋วยเตี๋ยวราคา 30 บาทที่คุณสามารถมานั่งทานกันได้อย่างชิว ๆ เลยทีเดียว ว่าแล้วทางเราก็ไม่ขอพลาดสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ว่าเด็ด ไปพร้อมกับการปักหมุดที่นั่งมุมดีห้อยขาท้าลมเย็นกันแบบฟินสุด ๆ ไปเลย
เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 07.00 – 16.00 น.
เดินทางมาถึงที่เที่ยวสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพกันแล้วเราก็ขอพาทุกคนไปยังที่เที่ยวสุดท้ายอย่าง วัดจองคำ สถานที่ศักดิ์ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความศรัทธากันเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จะเรียกวัดแห่งนี้ว่าวัดแฝด เนื่องจากวัดแห่งนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับ วัดจองลาง ที่อยู่ถัดออกไปนิดนึงให้คนภายนอกที่มองมานั้นเห็นเป็นวัดสองวัดที่อยู่เคียงคู่กัน แต่จริง ๆ แล้วมีกำแพงวัดกั้นวัดทั้งสองเอาไว้ ดังนั้นจึงทำให้บริเวณวัดจองคำนี้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของชาวไทใหญ่ ที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมให้พวกเราได้มาชื่นชม และกราบเข้ามาสักการบูชาองค์พระประธานกันที่วัดแห่งนี้เลย
เวลาเปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.
แน่นอนว่าเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้วทางเราก็ต้องไม่พลาดเดินทางมากราบไหว้ก่อนเดินทางกลับไปยังชีวิตจริงกันก่อนเลย และถึงแม้การเดินทางของเราในครั้งนี้จะจบลงเพียงเท่านี้ แต่สิ่งที่จะอยู่กับเราตลอดไปก็คือภาพความทรงจำของช่วงเวลาที่สนุกสนานที่ทำให้พวกเราได้สัมผัสหลากหลายประสบการ์ณทั้งวิถีชีวิตของชุมชน ธรรมชาติ และความสนุกสนานที่รอให้พวกเราไปสัมผัสอีกมากมายเลยทีเดียว