เรื่องและภาพ : บุญโชค พานิชศิลป์

                “คนลาวชอบกินเบียร์” จอห์น-บาริสตาหนุ่มหนวดงามประจำโฮสเตล Barn1920s ในเวียงจันทน์ บอกด้วยรอยยิ้ม คนลาวแทบทุกคนจะรู้วิธีเปิดขวดเบียร์โดยไม่ต้องพึ่งพาที่เปิดขวด แต่เรื่องอื่นๆ คนลาวไม่ค่อยชอบยุ่งหรือใส่ใจ อย่างเช่นเรื่องการเมือง หรือเรื่องที่ต้องแสดงความคิดเห็น ถ้าจะต้องเค้นถามกันจริงๆ เขาก็จะให้คำตอบแบบนักการทูต

                นครเวียงจันทน์ วันนี้ดูพลุกพล่าน แต่ยังมีความเป็น ‘สโลว์ ไลฟ์’ เวลาที่นี่คล้ายจะเคลื่อนช้า ในแต่ละวันเหมือนจะมีเวลาให้ทำอะไรได้หลายอย่าง ตระเวนไปรอบเมืองด้วยมอเตอร์ไซค์ จักรยาน หรือแม้กระทั่งเดินเท้า ในย่านกลางเมืองมีร้านกาแฟเปิดใหม่หลายแห่ง ที่ดูเป็นแหล่งรวมผู้คน(รายได้ดี)ในเวียงจันทน์เอง และนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราๆ

                ค่าครองชีพที่ลาวใกล้เคียงกับเมืองไทย ที่นับว่าถูกมากถึงมากที่สุดน่าจะเป็นสินค้าบริโภคประเภทที่เป็นภัยต่อสุขภาพ อย่างเบียร์หรือบุหรี่

                ผู้คนในเวียงจันทน์ดูรายการทีวีจากเมืองไทย แทบทุกคนเข้าใจภาษาไทย ผมถามจอห์น ในทางกลับกัน คิดว่าคนไทยทุกคนฟังภาษาลาวเข้าใจไหม จอห์นส่ายหน้า พูดตอบยิ้มๆ คนไทยอาจจะไม่สนใจ ถ้าใส่ใจที่จะเรียนรู้เขาก็คงฟังเข้าใจ อยากรู้ก็ต้องศึกษามั้ง บ้านเราอยู่ใกล้ๆ กันแค่น้ำโขงกั้น

ฝุ่น

                เส้นทางจากเวียงจันทน์ไปวังเวียงระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ฟังจากใครๆ บอกว่าต้องใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง ชวนให้นึกเห็นภาพความทุรกันดาร ซึ่งพอได้เห็นสภาพความจริง ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ กว่าครึ่งทางเต็มไปด้วยถนนที่ชำรุด เป็นหลุมเป็นบ่อ คนขับรถเล่าว่า เป็นเพราะมีการก่อสร้างเส้นทางมอเตอร์เวย์ จากเวียงจันทน์ไปหลวงพระบาง ที่รัฐบาลจีนมาลงทุนสร้างให้ และอีกราวสองปีกว่าจะแล้วเสร็จ

                จีนกับลาว เจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตมานานครบปีที่ 58 แล้ว ปี 2019 ยังมีกิจกรรมร่วมกันคือ ปีการท่องเที่ยวลาว-จีน ครึ่งปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือน สปป.ลาวแล้วกว่า 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวนที่นำหน้าคือนักท่องเที่ยวจีน ตามด้วยเวียดนาม และไทย คาดว่าตลอดทั้งปี 2019 จะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนทั้งสิ้น 4.5 ล้านคน

                สปป.ลาวมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และเป็นรายได้เข้าประเทศมากอันดับ 2 รองจากการส่งออกแร่ธาตุ (ทองคำ) คือราว 2.3 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยว 4.1 ล้านคน ในจำนวนนั้นเป็นนักท่องเที่ยวไทยมากที่สุดคือ 1.9 ล้านคน (จากสถิติเก่าที่ผ่านมา) รองลงมาเป็นเวียดนาม และจีน

                กลับมาที่ถนนสายเวียงจันทน์-วังเวียง นอกจากถนนชำรุดแล้ว สิ่งที่รบกวนบรรยากาศท่องเที่ยวอีกอย่างคือ ฝุ่น ที่คละคลุ้งตามรายทาง ยิ่งเวลาที่มีรถแล่นสวนกัน ฝุ่นกระจายเสียจนแทบมองไม่เห็นเส้นทางถนน ต้นไม้สองข้างทาง รวมถึงอาคารบ้านช่องที่อยู่ริมถนนเต็มไปด้วยฝุ่น ทั้งขาวและแดง ตามสภาพของผิวดินในแต่ละบริเวณ

                และฝุ่นก็ยังตามมาถึงวังเวียง เมืองปลายทาง อาจเพราะถนนในเมืองไม่ได้ราดยางเต็มทั้งพื้นที่ถนน ขอบทางจึงยังคงเป็นผิวดินที่เวลารถราแล่นผ่านแล้วลมจะหอบฝุ่นตลบไปด้วย อาคารร้านค้าในเมืองที่อยู่ริมถนนต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่น ร้านค้าบางแห่งต้องฉีดน้ำบนพื้นถนนด้านหน้าให้เปียกอยู่ตลอดเวลา ควบคู่กับการเช็ดถูพื้น และโต๊ะอย่างสม่ำเสมอ

                ผมเข้าใจเอาเองว่าคนลาวคงรับสภาพที่เป็นอยู่แบบนี้ได้ และคงไม่มีใครกล้าเกรียนเขียนด่ารัฐบาลลงในสื่อโซเซียล เหมือนคนในประเทศเพื่อนบ้าน แม้ว่าละอองฝุ่นในประเทศลาวจะเห็นชัดและวัดขนาดได้มากกว่าอณูของ PM 2.5 ถึงหลายเท่าก็ตาม

รื่นรมย์

                วังเวียง ความจริงน่าจะเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวสำหรับคนหนุ่ม-สาวมากกว่าคนสูงวัย เพราะที่นี่มีวัฒนธรรมแบบพื้นเมืองให้สัมผัสน้อย วัดวาก็มีอยู่ไม่กี่แห่ง และไม่ได้วิจิตรงดงามมากนัก ในทางตรงข้าม ที่นี่กลับอุดมไปด้วยกิจกรรมแบบผจญภัย ทั้งพายเรือแคนู ล่องแพยาง เดินถ้ำ ปีนผา หรือที่ราคาแพงหน่อยก็เป็นการนั่งบอลลูนยักษ์ ต่อด้วยการเฮฮาปาร์ตี้ในตอนค่ำคืน

                ผมกับเพื่อนสูงวัยหาโรงแรมที่พักจนเจอแล้ว แยกย้ายกันงีบเอาแรง ก่อนจะเดินลัดเลาะเมืองลงไปที่ริมฝั่งแม่น้ำซอง แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเมือง เดินข้ามสะพานไม้สภาพเก่าโทรม ที่มีทั้งคน รถจักรยาน และมอเตอร์ไซค์สัญจรขวักไขว่ไปยังดอนแก่ง ซึ่งเป็นเกาะริมฝั่งแม่น้ำซอง เราเลือกร้านอาหารที่เป็นแพริมน้ำ นั่งดื่มกินและหย่อนใจกัน

                พอแดดร่มลมตก ความรื่นรมย์เริ่มมาเยือน กลุ่มล่องแพยางและเรือแคนูทยอยผ่านลำน้ำที่เบื้องหน้า ดูละลานตา บนท้องฟ้าเหนือเมืองค่อยๆ มีบอลลูนยักษ์โผล่ขึ้นให้เห็น ดูเป็นความโกลาหลที่ไม่ได้นัดหมาย แข่งกับเสียงอึกทึกของเพลงผ่านลำโพงมหึมาของร้านอาหาร ชวนให้นึกถึงบรรยากาศงานรื่นเริงแถบอีสานบ้านเราเสียอย่างนั้น

                ตอนพลบค่ำ แม่น้ำสายสำคัญของเมืองก็หมดความน่าสนใจ แม้ว่าร้านอาหารแพริมน้ำจะเปิดให้บริการถึงดึกดื่น แต่พออิ่มหนำกับบรรยากาศยามเย็นแล้ว ใครๆ ก็โยกย้ายกลับเข้าไปที่ตลาดในเมือง ตลอดสองฟากถนนสายหลักมีร้านอาหารคึกคัก แบบผับบาร์ก็มีปะปน ร้านรวงบนถนนคนเดินหรือที่เรียก ‘ตลาดกลางคืน’ ยังมีร้านกินดื่มและแผงขายของที่ระลึก

                เสียงเพลงและเสียงนักท่องเที่ยวในวังเวียงเริ่มซาก็เมื่อเวลาล่วงเลยเที่ยงคืนไปแล้ว

ผจญภัย

                เพื่อนอยากเช่ามอเตอร์ไซค์ขับตระเวนเที่ยว แล้วก็หาเช่ามาจนได้ ในราคาที่ไม่แพงด้วย (ค่าเช่าตั้งแต่บ่ายสามถึงสามทุ่ม 200 บาท) จ่ายเงินค่าเช่าพร้อมยื่นพาสปอร์ตเป็นค่ามัดจำ ตอนนำรถมาคืนไม่ต้องเติมน้ำมันก็ได้ เจ้าของร้านเช่ารถบอก

                คราวนี้เราได้สัมผัสกับความขรุขระของถนนและฝุ่นแบบถึงตัว อีกทั้งบนเส้นทางไปบลูลากูน หรือสระมรกต ยังมีคาราวานรถ Buggy ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ผมได้ยินมาว่า ผู้ประกอบการเป็นชาวเกาหลีที่นอกจากมาลงทุนธุรกิจเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีแล้ว ยังลงทุนปรับปรุงเส้นทางในพื้นที่ทัวร์ของพวกเขาด้วย อาจจะคล้ายๆ กิจการทัวร์ศูนย์เหรียญของชาวจีนในเมืองไทยนั่นละ แต่ก็ไม่ได้คิดในแง่ลบไกลขนาดนั้น

                ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ในวังเวียง รัฐบาลลาวมอบหมายให้พลเมืองในท้องถิ่นเป็นคนดูแล ตั้งแต่พัฒนาพื้นที่ จัดสรรปันแบ่งรายได้กันเองในชุมชน ก่อนส่งรายได้ส่วนหนึ่งให้กับรัฐ เราจึงเห็นว่ามีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าตามสถานที่ต่างๆ โดยคนท้องถิ่น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สวมชุดเครื่องแบบ

                ขี่มอเตอร์ไซค์กินฝุ่นชมวิวชนบทข้างทางกันไปเรื่อยๆ แล้วไปทรมานตัวเองกับการปีนเขาเพื่อขึ้นไปที่จุดชมวิวบนผาน้ำใส บริเวณทางขึ้นมีชาวบ้านรุ่นยายรอเก็บค่าธรรมเนียมอยู่กับหลานๆ พร้อมกับบอกว่าระยะทางปีน 250 เมตรน่าจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ผมกับเพื่อนสูงวัยต้องชั่งใจสักพักก่อนตัดสินใจปีนขึ้นไป

                เส้นทางปีนยังดูเป็นธรรมชาติอยู่มาก ชาวบ้านคงไม่ได้ลงแรงมากนักในการปรับแต่งให้นักท่องเที่ยวปีนป่ายอย่างสะดวกและปลอดภัยกว่านั้น ความโหดอยู่ตรงความชันและขั้นบันไดที่ไม่สม่ำเสมอ ยิ่งช่วง 30 เมตรสุดท้ายก่อนถึงจุดชมวิวยังเป็นทางหินล้วนๆ เพื่อนผมบอกว่า ต้องคลานขึ้นไปแบบ ‘กอลลัม’ ไม่งั้นไปต่อไม่ได้

                กว่าครึ่งชั่วโมงเราก็ได้ขึ้นไปนั่งซับเหงื่อ ผ่อนลมหายใจยาวๆ บนยอดผาน้ำใส ชมวิวอลังการของภูเขาหิน ที่ใครๆ เรียกเป็น ‘กุ้ยหลิน’ ของลาว แล้วค่อยๆ คลานกลับลงไปด้านล่าง พักนั่งให้ขาและเข่าหายสั่นแล้วขี่มอเตอร์ไซค์กลับเข้าเมืองไปดูพระอาทิตย์ตกดินริมถนนข้างทาง

งานบุญ

                ตอนค่ำมีงานบุญที่ลานวัดมหาธาตุ วัดใหญ่บนเนินของวังเวียง ดูเป็นงานวัดธรรมดาๆ ที่ชาวเมืองจัดขึ้น มีวงดนตรี พื้นที่รำวง โต๊ะเก้าอี้เหล็กแบบพับได้ และมีแผงขายอาหาร รวมถึงเบียร์ลาว

                ทีแรกตั้งใจจะไปเที่ยวเล่นเดินดูบรรยากาศ แต่พอชาวบ้านเอ่ยปากชวนนั่ง เราก็ไม่ขัดศรัทธา ซื้อเบียร์และกับแกล้มมานั่งดื่มกินที่โต๊ะเหมือนคนอื่นๆ ฟังโฆษกบนเวทีเจื้อยแจ้วภาษาลาว เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ต่อด้วยเพลงร้องทั้งที่เป็นเพลงฮิตจากอีสานบ้านเรา และเพลงต้นฉบับของลาวเอง

                ครึกครื้นกันอยู่สักพัก พอรู้สึกมึนเราก็เริ่มตั้งประเด็นกันเอง เรื่องการจำหน่ายและกินดื่มสุรายาเมาในเขตวัด ถ้าเป็นเมืองไทย ไม่ว่าจะอยู่ซอกมุมไหนของประเทศ ป่านนี้คงถูกเปิดโปงและวิจารณ์กันป่นปี้ในสื่อออนไลน์ ทั้งคนจัดงานและเจ้าอาวาสวัดคงจะหัวร้อน หาความสุขชีวิตไม่เจอไปจนกว่าคนจะลืม

                แต่ที่นี่คือ สปป.ลาว ความคิด-ความเชื่อของผู้คนเป็นอีกแบบ

                ผมเก็บเรื่องนี้กลับมาที่เวียงจันทน์ ตั้งคำถามกับจอห์น-หนุ่มลาวโดยกำเนิด พร้อมกับสารภาพว่าผมรู้สึกผิดที่กินเบียร์ในวัด แต่เขาก็ให้คำตอบแบบน่าคิด

                “ที่ว่าผิดศีลข้อห้านั้น ถึงคุณจะทำในวัดหรือนอกวัด ความผิดมันก็ไม่ต่างกัน-ไม่ใช่หรือ”   

                   

How To:

                + การใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) จะสะดวกกว่าใช้บัตรประชาชนไทย ปัจจุบันไม่มีค่าธรรมเนียมเข้า สปป.ลาวแล้ว เพียงแต่กรอกเอกสารตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า-ขาออกเท่านั้น

                + ควรแลกเงินกีบติดกระเป๋าไว้ อัตราแลกเปลี่ยนที่ด่านฝั่งลาว (ต้นปี 2019) 1 บาท = 275 กีบ กระเป๋าอาจจะบวมหน่อย แต่ราคาสินค้าหรือบริการจะถูกกว่าใช้จ่ายด้วยเงินบาทไทย ที่ส่วนใหญ่จะคำนวณที่อัตรา 250 กีบต่อหนึ่งบาท หรือต่ำกว่านั้น

                + แนะนำ Barn1920s Hostel ที่เวียงจันทน์ เปิดให้บริการเมื่อเดือนสิงหาคม 2018 เป็นห้องพักแบบ Dorm แยกชาย-หญิง ห้องละ 4-6 เตียง ที่นี่สะอาดสะอ้าน อยู่ใจกลางเมือง และราคาไม่แพง สามารถจองผ่านช่องทางออนไลน์ของ Traveloka ได้ที่: https://www.traveloka.com/en-th/hotel/laos/barn1920s-hostel-4000001082339?spec=16-08-2019.17-08-2019.1.1.HOTEL.4000001082339.Barn1920s%20Hostel.1

                + รถตู้จากเวียงจันทน์ไปวังเวียง สามารถซื้อตั๋วผ่าน Barn1920s Hostel ได้ ราคา 250 บาท/คน/เที่ยว ซึ่งไม่แพงไปกว่าซื้อที่อื่นมากนัก ส่วนขากลับ หากซื้อตั๋วโดยสารจากบริษัทตัวแทน แนะนำให้ไปขึ้นรถก่อนเวลาออกที่ด้านหน้าบริษัท ดีกว่ารอให้รถวนไปรับที่โรงแรม เพราะถ้ารถวนไปรับคุณเป็นคนสุดท้าย คุณจะไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งได้เลย ยิ่งเป็นรถตู้ จะอัดแน่นไปด้วยผู้โดยสาร และสัมภาระทั้งหมด

                + ที่พักในวังเวียงสำหรับใครที่ยังไม่เคยไป หากต้องการพักอยู่นานกว่า 2 คืน ควรจองล่วงหน้าไปแค่หนึ่งหรือสองคืน (เพื่อประกันความผิดหวัง) แล้วค่อยตระเวนหาใหม่เมื่อเดินทางไปถึงที่นั่น

                + ใครชอบอาหารปิ้ง-ย่าง แนะนำ ร้านจันแถว ตั้งอยู่บนถนนสายหลักในตลาด มีเมนูหมูย่าง-เป็ดย่าง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มและผักสด อีกร้านคือ Oh La La มีเนื้อหมู ไก่ ไส้กรอกเสียบไม้ให้เลือก รสชาติดี และไม่แพงมาก

Facebook Comments Box