* ภาพเปิดจาก https://banbomvillablog.wordpress.com
Spotlight รวบรวมรายชื่อเฟสบุ๊กเพจและแหล่งซื้อ-ขาย ที่ช่วยสนับสนุนข้าวคุณภาพดีจากชาวนาโดยตรง เพื่อให้ถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ
หลังเกิดกระแสข่าวราคาข้าวเปลือกตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 5-6 บาท โดยโรงสีรับซื้อข้าวเปลือกความชื้นไม่เกินร้อยละ 30 เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 6,000 กว่าบาท ส่วนข้าวเปลือกที่เปียกน้ำหรือปลอมปนราคาตันละกว่า 5,000 บาท ทำให้ชาวนาจำเป็นต้องนำข้าวเปลือกออกขาย เพื่อหาเงินมาใช้หนี้สินภายในครัวเรือน จนเกิดกระแสร้อนในโลกโซเชียลฯ เมื่อคนไทยส่วนหนึ่งอยากสนับสนุนข้าวจากชาวนาโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง และชาวนากลุ่มหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ก็ลุกขึ้นมารวมกลุ่มงดขายข้าวเปลือกให้กับโรงสีหรือพ่อค้าคนกลาง แล้วหันมาลงหุ้นรวมกลุ่มกันสีข้าวจากโรงสีชุมชนขนาดกลาง ก่อนนำข้าวไปขายกันเอง
อันที่จริง การซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรงไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย เพราะกลุ่ม ‘เพื่อนชาวนา’ หรือ ‘Farmers’ Friend Rice’ ได้ริเริ่มโครงการซื้อข้าวอินทรีย์จากชาวนาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมชาวนาที่ปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ทุกขั้นตอน โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งโรงสี พ่อค้าคนกลาง และไม่เข้าโครงการจำนำข้าว พร้อมชูสโลแกน ‘เพื่อนชาวนา ข้าวคุณภาพสูง นิสัยดี ไม่คบหาสารเคมี ปลูกปีละครั้ง’ ผลิตโดยสหกรณ์ผู้ผลิตเกษตรอินทรีย์ จ.ยโสธร ภายใต้การดูแลของมูลนิธิสายใยแผ่นดิน เครือข่ายความรู้และควบคุมมาตรฐานการปลูกจนถึงการสีข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ครบวงจร
ปัจจุบันเครือข่ายเพื่อนชาวนา มีชาวนาและสหกรณ์การผลิตที่ปลูกข้าวตามมาตรฐานของเกษตรอินทรีย์เข้าร่วมโครงการหลายจังหวัด นอกจากนี้ยังเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสุขภาพอีกมากมาย เพื่อนำข้าวอินทรีย์คุณภาพสูงส่งตรงจากชาวนาถึงมือคนเมืองที่รักสุขภาพ คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและสนับสนุนข้าวเกษตรอินทรีย์จากชาวนาได้ที่เฟสบุ๊กเพจ ‘เพื่อนชาวนา Farmers’ Friend Rice’ สนใจสั่งซื้อได้ที่ thaifarmersfriend@gmail.com หรือ https://www.facebook.com/farmersfriendrice
เช่นเดียวกับกลุ่มชาวนาที่ใช้ชื่อเพจในเฟสบุ๊กว่า ‘ขายข้าวสารหอมมะลิสุรินทร์-ชาวนาทำเอง สีเอง ขายเอง’ ที่เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2557 โดยชูจุดขายด้วยข้าวหอมมะลิสุรินทร์แท้ 100% พร้อมจำหน่ายทั้งแบบปลีกและส่ง ผลิตโดยโรงสีข้าวชุมชน ต.กระออม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ พร้อมแจ้งเบอร์โทร.สั่งซื้อได้ที่ (081) 813-8843 และ (085) 095-2225 หรือคลิกเข้าไปกดไลค์ให้กำลังใจชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมสุรินทร์แท้ได้ที่ https://www.facebook.com/ขายข้าวสารหอมมะลิสุรินทร์-ชาวนาทำเองสีเองขายเอง
ในปีเดียวกัน เพจที่ใช้ชื่อว่า ‘สั่งซื้อข้าวจากชาวนาไทย E-Rice Thai farmer’ พร้อมชูนโยบายการทำงานว่า “พวกเราคือ ‘ชาวนา’ เรียนรู้ที่จะเป็น ‘พ่อค้า’ เอง การทำงาน เราอิงกลไกตลาด ตัดส่วนที่ทำให้ชาวนาอ่อนแอออก เพื่อให้ชาวนาในโครงการเราอยู่ได้ ทีมงานเราเลี้ยงตนเองได้ คนกินได้กินข้าวคุณภาพ สมราคา และเราทำมา 2 ปีแล้ว” เพื่อส่งเสริมให้คนไทยได้กินข้าวหอมคุณภาพดี และสนับสนุนชาวนาให้เป็นทำการเกษตรอย่างยั่งยืน สั่งซื้อได้ที่ (096) 557-1538
ล่าสุด เว็บไซต์ www.khaosod.co.th รายงานว่า เมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เร่งระดมความคิดเห็นจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และคนหนุ่มสาวในพื้นที่ เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ ได้ข้อสรุปว่า งดขายข้าวเปลือกให้กับโรงสีหรือพ่อค้าคนกลาง หันมาลงหุ้นรวมกลุ่มกันสีข้าวจากโรงสีชุมชนขนาดกลาง และนำไปขายกันเอง โดย อบต.ประกันราคาให้ กก. ละ 20 บาท ชาวบ้านขายนำไปขาย กก.ละ 27 บาท (มารับข้าวเอง) เป็นข้าวถุงขนาด 5 ก.ก. และขนาด 48 กก. ใช้ชื่อว่า ‘สะกาด ขวัญข้าว’ สนับสนุนชาวนาโดยองค์การบริหารส่วนตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อ ติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด 098-121-8398 หรือ คุณน้อง 093-4545-979,096-416-9165
ส่วนชาวนาที่สนใจอยากขายข้าวโดยตรง นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่เกษตรกรปลูกข้าวและสีข้าวเอง สามารถนำไปขายได้ ไม่ว่าจะขายที่บ้านหรือขายผ่านทางออนไลน์ เนื่องจากไม่ได้ทำการค้าขายเป็นอาชีพปกติ จึงไม่ถือว่าเป็นผู้ประกอบพาณิชยกิจตามพระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ. 2499 ดังนั้นจึงไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์