PELLEVAH เครื่องหนังแห่งความงดงามเหนือกาลเวลา
ชวนสองเซเลบริตี้สาวสวยเนี้ยบ เผยเคล็ดลับเลือกแอคเซสซอรี่ใบโปรดคู่กาย
ตอบโจทย์ผู้หญิงที่มองหาอัตลักษณ์ในแบบตัวเอง

 

                เพราะกุญแจแห่งความสำเร็จของผู้หญิงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม  คือภาพลักษณ์โดยเฉพาะการเลือกสรรสิ่งที่สะท้อนรสนิยมและส่งเสริมบุคลิกของคนๆ นั้น “กระเป๋าถือ” ก็นับเป็นหนึ่งในนางเอกของแอคเซสซอรี่ที่ผู้หญิงพิถีพิถันอย่างยิ่งในการคัดสรร  อย่างสองเซเลบริตี้สาวสวยเนี้ยบผู้มีสไตล์เป็นของตัวเอง ม.ล.อรดิศ สนิทวงศ์ และ ศิวารยา ณ นคร ที่ร่วมบอกเล่าเคล็ดลับการเลือกกระเป๋าใบโปรดที่ตอบไลฟ์สไตล์ของตัวเองอย่างแท้จริง 

                ม.ล.อรดิศ สนิทวงศ์ หรือ คุณแก้ว หนึ่งในเวิร์คกิ้งวูแมนที่มีบุคลิกโดดเด่น น่ามอง เล่าถึงการทำงานในบทบาทผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานองค์กรสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ซึ่งภาพลักษณ์เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ว่า “เนื่องจากเราต้องพบกับผู้คนหลาก หลายกลุ่ม การแต่งกายจึงต้องเหมาะสม โชคดีที่แก้วเป็นคนชอบแต่งตัวอยู่แล้วเลยสนุกซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน แต่จริง ๆ ไม่ว่าจะชุดไหน แก้ว ก็จะต้องเลือกแล้วเลือกอีก เพราะทุกอย่างจะสะท้อนความเป็นตัวเรา สไตล์ของแก้วคือการเลือกแต่งตัวโดยดึงบุคลิก ของตัวเองออกมาให้ชัดที่สุด ที่สำคัญคือต้องสวยเก๋ เข้ากับรูปร่าง อารมณ์  ซึ่งบุคลิกตัวเองเป็นคนค่อนข้างนิ่ง ไม่ได้หวือหวามาก เลยแต่งตัวนิ่งแต่มีดีเทลเล็กๆ โดยจะใส่ใจในการเลือกสิ่งที่จะมาเสริมการแต่งตัวของเรา เป็นการมิกซ์ แอนด์แมทช์มากกว่า” 

                สิ่งแรกที่คุณแก้วเลือกใช้ช่วยเสริมบุคลิกและการแต่งกายให้ดูสวยครบทุกมุมมอง คือกระเป๋าที่ทำหน้าที่มากกว่าใช้เก็บของ “บางคนอาจจะมีจิวเวลรี่ชิ้นเด่นที่ช่วยเสริมบุคลิก แต่สำหรับแก้วจะใช้กระเป๋าช่วยเสริมบุคคลิกของเราให้ดู โก้หรู เพอร์เฟ็คท์ขึ้น  การแต่งตัวสวยจะไม่มีความหมายเลย ถ้าหากขาดกระเป๋าเข้าชุดที่จะเติมเต็มลุคให้สมบูรณ์แบบ เวลาเลือกซื้อกระเป๋าแก้วจะเลือกค่อนข้างเยอะสักนิดค่ะ  ด้วยความที่หน้าที่การงานต้องพบปะผู้คน  ดังนั้น การจะเลือกซื้อกระเป๋าต้องคิดให้ละเอียด ไม่ใช่แค่รักแรกพบ เห็นแล้วถูกใจ ชอบเลยซื้อ แต่ต้องคำนึงถึงหลาย องค์ประกอบ เพราะกระเป๋าหนึ่งใบสามารถสะท้อนภาพลักษณ์และบอกความเป็นตัวตนของเรา

                “อย่างแรกเลยคือต้องประณีต ซึ่งต้องเริ่มต้นตั้งแต่วัสดุที่ใช้ ถ้าเป็นกระเป๋าหนังก็ต้องมาจากแหล่งที่มั่นใจ ได้ในเรื่องคุณภาพ โดยเฉพาะถ้าเป็นแบรนด์ที่มีประสบการณ์มาหลายสิบปีก็ยิ่งมั่นใจได้ว่าเขาจะมีความเชี่ยวชาญใน การเสาะหาหนังที่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะหนังเอ็กโซติก ที่มีเอกลักษณ์ หายาก เพราะคงไม่มีใครอยากจะถือ กระเป๋าที่ดูเหมือนกับคนอื่น ๆ ยิ่งถ้าเป็นงานฝีมือก็ยิ่งดึงดูดใจให้อยากซื้อ เพราะมันมีเสน่ห์และมีความยูนีคอยู่ในกระเป๋าแต่ละใบ อย่างที่สองคือ ดีไซน์ สไตล์การออกแบบ แก้วชอบกระเป๋าที่ไซส์ไม่ใหญ่มาก และไม่หนักมาก  สามารถใช้ให้แมทช์กับชุดต่าง ๆ ของเราได้ง่าย บางคนอาจจะคิดว่าการซื้อกระเป๋าคือความสิ้นเปลือง แต่สำหรับแก้วการซื้อกระเป๋า ที่เข้ากับการใช้งานของเรา ใช้ได้กับโอกาสที่หลากหลาย แล้วมีดีไซน์เหนือกาลเวลา (Timeless elegance) ไม่เชย คลาสสิกอยู่เสมอ ไม่ใช่แฟชั่นที่มีการเปลี่ยนแปลง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

                “แก้วไม่ได้มองว่ากระเป๋าเป็นแค่ไอเท็มสำหรับเสริมลุคให้ดูคอมพลีทในแต่ละวันนะคะ แต่แก้วว่าเดี๋ยวนี้ ผู้หญิงมองว่ากระเป๋าสามารถเป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่เราจะส่งมอบให้กับคนที่เรารักได้ในวันข้างหน้า   สามารถส่งต่อ จากรุ่นสู่รุ่นได้เพราะกระเป๋าสามารถเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเองในทุกๆวัน ยิ่งเรามีลูกสาวยิ่งคุ้ม ถ้าเราใช้แล้วดูแลดี อนาคตก็มอบให้เขาได้ แก้วเองก็ได้รับกระเป๋าจากคุณแม่มาเหมือนกัน เพราะคุณแม่ก็เป็นคนรักษาของ ทุกวันนี้ใช้ เสร็จแก้วจะผึ่งให้แห้ง ไม่ให้ชื้น แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ด ก่อนเก็บใส่ถุงผ้า ไว้ในห้องที่ไม่ร้อน ในตู้ที่อากาศถ่ายเทได้ค่ะ”

                แม้แบบของกระเป๋าที่ถูกใจของคุณแก้วอาจจะมีเปลี่ยนไปตามการใช้งาน ช่วงเวลา ช่วงวัยของชีวิต แต่มีสิ่ง หนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน “เท่าที่ลองสังเกตดูจากกระเป๋าที่มีอยู่ พบว่าส่วนใหญ่เป็นดีไซน์ที่ ดูคลาสสิค ไม่หวือหวา ไม่ตามแฟชั่นมากจนเกินไป หลายครั้งที่ต้องออกงานหรือประชุมกับลูกค้านอกสถานที่ทั้งวัน ก็ต้องพกกระเป๋าเครื่องสำอางเล็ก ๆ ใส่ลิปสติกกับแป้งพัฟฟ์ไว้เติมระหว่างวัน ซึ่งถ้าใช้กระเป๋าที่ขนาดใหญ่มากก็จะดูพะรุงพะรังมากไป  ส่วนข้างในกระเป๋าก็ต้องแบ่งสัดส่วนให้เรียบร้อย ง่ายต่อการหยิบของในกระเป๋าใช้ จะช่วย ประหยัด เวลาและดูเป็นโปรเฟสชันแนลด้วยนะคะ

                “ช่วงนี้ใบโปรดต้องยกให้ใบนี้เลยค่ะ PELLEVAH (เปเลวา) รุ่น GONDOLA กระเป๋าหนังจระเข้สีเขียว ที่เป็นแบรนด์ ของคนไทย อย่างแรกที่ชอบคือแบบ และขนาดกะทัดรัด เป็นแบบที่แก้วใช้งานประจำเลยค่ะ แล้วน้ำหนัก เบามาก ใช้สะดวก ถือได้สะพายได้ เพราะมีสายสะพายให้ด้วย วัสดุที่เลือกใช้คุณภาพดีมาก ตัดเย็บได้ประณีต ข้างในไลนิ่งเป็นหนังวัวคุณภาพดีแบบที่เราเห็นบางแบรนด์นำมาใช้เป็นกระเป๋าด้านนอก

                “รุ่นนี้จะมีอีก 4 สี คือสีขาวทอง ดำทอง สีเชอร์รี่ที่ออกสีม่วงแดง และสีเกรปที่เป็นสีม่วงเลย แต่สีเขียวเป็นสีที่แก้วชอบและหายาก ไม่ค่อยเห็นที่ไหน ใบนี้พิเศษตรงที่เป็นหนังแบบกลอส ที่ช่วยขับให้สีเขียวของ กระเป๋าเฉดนี้ที่หายากอยู่แล้วสวยขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าไปงานกลางคืนหรือแฮงค์เอาท์กับเพื่อนตอนกลางคืน เวลา โดนแสงไฟ แก้วพูดเลยว่าสวยมาก  การวางจุดตัดของหนังต้องใช้ความประณีต ละเอียดอย่างสูงนะคะ ว่าจะทำ อย่างไรให้ดูเนียนไปทั้งใบ และโชว์จุดเด่นของลายจระเข้ได้ชัด เพราะจระเข้แต่ละตัวจะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และสร้างเสน่ห์ให้กับกระเป๋าแต่ละใบ

                “นอกจากกระเป๋าของ PELLEVAH แต่ละใบจะใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรหนังจระเข้ผืนที่ดีที่สุด ไร้รอยตำหนิ เพื่อให้ได้หนังเอ็กโซติกที่น่าหลงใหล  ไปจนถึงขั้นตอนการออกแบบและตัดเย็บเพื่อให้ได้กระเป๋าหนัง Exotic ใบที่สวยที่สุดแล้ว ยังต้องคัดสรรช่างผู้มีความชำนาญ พิถีพิถัน ในการทำงาน โดยเฉพาะใบนี้ที่ตัวหนังเป็น กลอสทำให้การตัดเย็บอาจจะมีรอยแตกเสียหายได้ ถ้าช่างไม่มีฝีมือจริงๆ

                “แก้วชอบหนังเอ็กโซติกมาก เพราะมีเท็กซ์เจอร์ ที่มีความยูนีคมาก ทำให้ไม่เหมือนใคร แต่ในชีวิตประจำวัน เมื่อก่อนไม่ค่อยกล้าใช้เพราะคิดว่ารักษายาก โดยเฉพาะกระเป๋าหนังเอ็กโซติก ที่เป็นกลอสจะรู้สึกว่าดูแลยาก  แต่ทาง แบรนด์ PELLEVAH ได้ให้คำแนะนำว่าสามารถดูแลรักษาแบบทั่วไปได้ เพียงแค่ระวังเรื่องความชื้น มีฝุ่นก็ใช้ ผ้านุ่ม ๆ เช็ดเบาๆ แล้วปัจจุบันมีตัวช่วยในการดูแลรักษาคือมีน้ำยาทำความสะอาดหนังเอ็กโซติก กับหนังกลอส โดยเฉพาะ เลยไม่ต้องห่วงเรื่องการใช้งานอีกต่อไป สามารถใช้ได้อย่างมีความสุข แล้วยิ่งใช้กลับยิ่งสวยค่ะ และที่ประทับใจมาก คือ เป็นกระเป๋าแบรนด์ไทย คนไทยเป็นคนมีฝีมือประณีตที่ไม่เหมือนใครใน โลก ฝรั่งเองยังทึ่งมากกับช่างฝีมือไทยที่สั่งสมและส่งต่องานฝีมือกันมารุ่นต่อรุ่น ยิ่งพอนำมารวมเข้ากับโรงงานที่ได้ มาตรฐาน ที่ควบคุมการผลิตเองทุกขั้นตอน และมีทีมดีไซเนอร์ที่คิดค้นเทคนิคใหม่ ๆ กล้าลองทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ ทำให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ ซึ่งเมื่อคนทำใส่ใจ คนถือเองก็ภูมิใจ ที่ได้สนับสนุนสินค้าของไทยที่มีความสวยงาม แบบสากล  ให้ขึ้นไปสู้กับแบรนด์ระดับโลกได้ค่ะ”

                ศิวารยา ณ นคร หรือ คุณตั้ม ผู้หญิงทำงาน บุคลิกเรียบ เท่ และมีสไตล์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สมกับอาชีพการงานในแวดวงโฆษณา ซึ่งแต่ละวันต้องพบปะกับผู้คนมากหน้าหลายตา จึงให้ความสำคัญในการดูแลภาพลักษณ์เป็นพิเศษ ทั้งการแต่งกาย และแอคเซสเซอรี่ ที่เป็นเสมือนด่านแรกในการสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น   

                ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ นิยามสไตล์การแต่งตัวของตัวเองที่ชื่นชอบความ “น้อยแต่มาก”  ไม่หวือหวา แต่เน้นที่ความเรียบเท่ บางชิ้นต้องมีดีเทลเล็ก ๆ แต่สามารถทำให้สไตล์การแต่งตัวโดดเด่น ที่สำคัญเน้นดึงคาแรกเตอร์ของตัวเองออกมาให้เด่นชัดที่สุดจากการแต่งตัว รวมทั้งเสริมการแต่งตัวให้เพอร์เฟ็กต์ด้วยแอคเซสซอรี่ อย่างกระเป๋าถือ หนึ่งในตัวช่วยเสริมลุคให้สมบูรณ์แบบ

                “ส่วนใหญ่ในแต่ละวัน ด้วยความที่งานค่อนข้างรัดตัว แต่ก็ไม่ละเลย หรือมองข้ามความสำคัญในการดูแลภาพลักษณ์ โดยเฉพาะการแต่งกาย ที่แม้จะเน้นความเรียบง่าย ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับดีเทล และดีไซน์ของของเสื้อผ้าที่ต้องมีความยูนีคให้ดูต่างจากคนอื่น แต่สามารถนำมาแมทช์กันได้ และใช้ได้นาน รวมถึงมีลูกเล่นที่น่าสนใจ เพื่อให้การแต่งตัวเรียบ ๆ ดูสนุกขึ้นมาได้ ส่วนสีสันเน้นโทนสีขาว และโทนสีเข้ม เช่น ดำ น้ำเงิน ซึ่งเป็นสีที่ใส่ได้ทุกสถานการณ์ และได้ลุคสมาร์ทในแบบของตัวเองด้วยค่ะ

                “โดยเฉพาะการเลือกแอคเซสซอรี่ อย่างกระเป๋าถือ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่เลือกสรรเป็นพิเศษเช่นกัน เพราะความที่เป็นคนไม่ได้ตามเทรนด์แฟชั่นมาก จึงต้องมั่นใจ และเชื่อในรสนิยมของตัวเอง ดังนั้นของที่เลือกใช้ต้องมีดีไซน์ที่ดูดี มีความเก๋ ตอบโจทย์การใช้งาน และทนทานใช้ได้นาน เพราะเป็นคนที่มีสัมภาระค่อนข้างเยอะ ดังนั้นกระเป๋าใบโปรด จำเป็นต้องจุของได้เยอะ เนื่องจากการทำงานในชีวิตประจำวัน  ปกติจะมีกระเป๋าถือ สำหรับสัมภาระส่วนตัวต่าง ๆ และกระเป๋า Tote bag สำหรับใส่ไอแพด คอมพิวเตอร์ และหนังสือ”  

                คุณตั้ม บอกหลักในการเลือกกระเป๋าใบโปรด ซึ่งไม่ต่างกับการเลือกเสื้อผ้า คือ ดีไซน์คลาสสิค ใช้ได้นาน ไม่ตกยุค อย่างกระเป๋าหนังเอ็กโซติก  ซึ่งแต่ละใบจะมีความยูนีค ถึงจะดีไซน์ออกมาเป็นแบบเดียวกัน ด้วยลวดลายธรรมชาติของหนังทำให้กระเป๋าแต่ละใบมีความแตกต่างยิ่งเก็บยิ่งใช้ไปนาน ๆ หนังจะมีความมันวาวสวยงาม

                “ความที่เป็นคนไม่ชอบรูดซิปกระเป๋า เพื่อที่จะได้หยิบของได้ง่าย ๆ กระเป๋าหนังจระเข้ ของ Pellevah รุ่น CLAUDIA จึงตอบโจทย์การใช้งานของตัวเองมาก ใบเดียวเอาอยู่ ทั้งทรงกระเป๋าเป็นแบบ Bucket bag ไม่ต้องคอยรูดซิป หรือติดตะขอให้ยุ่งยาก และจุของได้เยอะมาก ใส่สิ่งของในชีวิตประจำวันได้ ทั้งกระเป๋าสตางค์ เครื่องสำอางชิ้นเล็ก ๆ มือถือ รวมทั้งเป็นงานฝีมือที่ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด  ไม่ว่าจะเป็นการเลือกหนังจระเข้ที่มีลวดลายและขนาดที่เหมาะสมกับรูปทรงกระเป๋าการตัดเย็บที่ปราณีตมาก รวมทั้งดีไซน์คลาสสิก “Timeless Elegance”  ไม่ว่าจะหยิบมาใช้วันไหนก็รู้สึกว่าไม่เคยตกยุค  ที่สำคัญดีไซน์กระเป๋าใช้งานง่าย สามารถถือ หรือสะพายได้หลายรูปแบบ จึงเป็นใบโปรดที่ถูกหยิบขึ้นมาใช้มากที่สุด” 

                “หลายคนอาจมองว่าการใช้กระเป๋าเอ็กโซติก จะมีแต่สาว ๆ รุ่นใหญ่ วัยคุณแม่ที่นิยมเท่านั้น แต่อันที่จริงสาวๆ ยุคใหม่ ก็สามารถใช้ได้อย่างไม่ต้องเคอะเขิน ขึ้นอยู่กับดีไซน์ และรูปทรงที่ออกแบบที่เข้ากับบุคลิกของเรามากกว่า ที่สำคัญหนังเอ็กโซติกเหล่านี้ ก็เป็นหนังที่มีคุณค่า ถึงบางใบจะมีราคาสูง แต่ดูแล้วว่าถ้าคุ้มค่ากับการลงทุนก็ไม่ลังเลใจที่จะซื้อ ยิ่งเป็นงานตัดเย็บฝีมือ ประณีต  ยูนีค มีความเป็นเฮอริเทจ ยิ่งทำให้อยากเป็นเจ้าของ และเมื่อแบรนด์มีความชัดเจนในเรื่องดีไซน์ และคุณภาพ เหมาะสมทั้งในเรื่องของราคา เราคนไทยก็ต้องสนับสนุนแบรนด์ของคนไทยด้วยกันแน่นอนค่ะ” เธอบอกเสน่ห์ของกระเป๋าใบโปรด ที่สะท้อนถึงคุณค่าทางจิตใจ ที่ตอบสนองความปรารถนาของผู้หญิงที่มองหาความมีอัตลักษณ์ในแบบเฉพาะตน

                สัมผัสความงดงามเหนือกาลเวลา  และคุณค่าของกระเป๋าหนังเอ็กโซติกที่ชวนหลงใหล เพื่ออิสตรีที่มองหาความมีอัตลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว ได้ที่  PELLEVAH Shop โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตั, PELLEVAH ป๊อปอัพ สโตร์  ชั้นเอ็ม พารากอน ดีพาร์ทเมนท์สโตร์, PELLEVAH เคาน์เตอร์ แผนก Shoes & Bags Salon ชั้น 1 เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์ และแผนก Shoes & Handbags ชั้น 2 เซน ดีพาร์ทเม้นท์ สโตร์

Facebook Comments Box